Kathleen Edwards ผู้ไม่ฟูมฟายกับความไม่มั่นคงของอาชีพนักเขียน

เส้นทางชีวิตของนักเขียนอิสระคนหนึ่ง เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหลุมพรางมากมาย ทว่าเธอก็สามารถประคับประคองตนเองจนผ่านพ้นมาได้
“ ฉันไม่เคยฟูมฟายกับความไม่มั่นคงของอาชีพนักเขียน ” Kathleen Edwards
เส้นทางชีวิตของนักเขียนอิสระคนหนึ่ง แน่นอนที่หาได้ราบเรียบดุจราดยางมะตอย ทว่า ขรุขระ เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหลุมพรางมากมาย ทว่าเธอก็สามารถประคับประคองตนเองจนผ่านพ้นมาจนถึงปลายทางที่เคยฝันไว้ และยืนหยัดได้อย่างมั่นคง—
Kathleen Edwards คือ หญิงสาวคนที่กล่าวถึงข้างต้น ตั้งแต่อายุ 14 เธอก็ฝันอยากเป็นนักร้องนักแต่งเพลง และทุ่มเทให้กับความฝันนั้นจนถึงกับตัดสินใจลาออกจากวิทยาลัยกลางคัน มุ่งหน้าสู่ฮอลลีวู้ด ดินแดนที่เธอเชื่อว่าจะทำให้ฝันเป็นจริง
เธอเรียกชีวิตของเธอว่านักแต่งเพลงไส้แห้ง ! โดยเฉพาะมันจำเป็นต้องใช้เงินจ่ายให้แก่สมาชิกวง ค่าเช่าห้อง และการโปรโมท เธอจึงหางานทำเป็นเลขานุการของสตูดิโอแห่งหนึ่ง
บทเรียนที่แสนจะคุ้มค่าคือการสอนให้เธอสงบ เยือกเย็นยามดาราชื่อก้องถามคำถาม และเมื่อเอเย่นต์ใหญ่ตะคอกคำสั่ง เธอก็เรียนรู้ที่จะโต้ตอบอย่างฉับพลัน
เวลาผ่านไปรวดเร็วดุจติดปีก ทว่าปลายทางแห่งฝันดูไม่ใกล้เข้ามาเลย ในวันที่เธอนับอายุได้เกือบ 30 ปี มันเป็นช่วงวัยที่นักแต่งเพลงต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าพวกเขาจะอดอยากต่อไปชั่วชีวิต หรือต้องการก้าวไปข้างหน้า
แล้วบังเอิญเหลือเกินที่นิตยสารเล่มหนึ่งจัดประกวดบทความในวาระครบรอบปีที่ 10 เธอเขียนเรื่องเกี่ยวกับชีวิตการโยกย้ายที่อยู่ เพื่อจะเป็นนักแต่งเพลงทั้งของเธอและผองเพื่อน พวกเขาตีพิมพ์เรื่องนั้น และเธอได้รับเงิน 200 ดอลลาร์
แน่นอนตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่า เพิ่งค้นพบวิธีการเขียนที่ทำให้ได้เงิน !
เธอตัดสินใจเรียกผองเพื่อนมารวมตัวกัน ส่งเทปบันทึกเสียงและไมโครโฟนให้พวกเขา พร้อมกล่าวว่า เธอคงไม่ต้องการใช้พวกมันอีกต่อไปแล้ว
“ การเขียนมีพลังอำนาจ ฉันไม่ต้องการใครอื่นอีกในการเขียน ฉันสามารถทำมันได้ด้วยตนเอง ฉันมีอุปกรณ์ที่ต้องการอยู่ภายในหัวแล้ว ” เธอบอกเรา
ผลงานเขียนของเธอได้ตีพิมพ์เรื่อยมา และเธอไม่เคยหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ เธอสิงอยู่ห้องบรรณาธิการคอยถามไถ่ถึงเหตุผลของการแก้ไขงานเขียน ฝีมือการเขียนของแคทเธอลีนดีขึ้นและเขียนได้เร็วขึ้น
เมื่อเรื่องของเธอชนะการประกวดอีกคราหนึ่งที่ลอสแองเจลิสไทมส์ บรรณาธิการได้ชักชวนให้เธอเขียนเรื่องส่งประจำ วันนั้นเธอร้องบอกตัวเองว่า “ ฉันได้เป็นนักเขียนอิสระแล้ว ”
แคทเธอลีนหาความรู้เพิ่มเติมด้วยการกลับไปเรียนเกี่ยวกับการเขียนนิตยสาร และนักหนังสือพิมพ์ที่มหาวิทยาลัย และต่อมาได้ยื่นใบสมัครทำงานเขียนเต็มเวลาแก่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่เธออ่านพบโฆษณา
“ พวกเขาพิจารณาผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดและทดสอบการเขียนชิ้นหนึ่ง มีนักเขียนถึง 24 คนที่ร่วมทดสอบ แต่ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่จะเขียนบางสิ่งที่พวกเขาจะตีพิมพ์ให้ ซึ่งงานนี้จ่ายถึง 45,000 ดอลลาร์ในตอนเริ่มต้น ”
เธอเริ่มต้นอาชีพเป็นพนักงานนักเขียน ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ส่งเรื่อง 3-4 เรื่องต่อสัปดาห์ และเป็นการปูพื้นแก่อาชีพที่ 2 คือนักเขียนอิสระอีกด้วย
เมื่อมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น แคทเธอลีนได้พบประเด็นสำคัญบางอย่างที่อาจช่วยผู้ที่ต้องการเป็นนักเขียนอิสระได้บ้าง อันได้แก่
1. ฉันไม่ฟูมฟายกับความไม่มั่นคงของอาชีพนักเขียน เพราะมันไม่เกี่ยวกับการเป็นนักเขียนอิสระ ฉันเพียงสนุกกับมันเท่านั้น
2. เมื่อฉันพบทางตัน ฉันจะหาทางอื่น ไม่มีสิ่งใดมายับยั้งฉันได้เพียงเพราะใครบางคนบอกปฏิเสธ ฉันชอบการได้รับการตีพิมพ์มากๆ
3. ฉันยินดีศึกษาหาความรู้ทั้งจากบรรณาธิการและการกลับไปเข้าเรียนใหม่
4. ฉันได้รับผลสะท้อนกลับแง่บวกในตอนต้นซึ่งเป็นการกระตุ้นและให้กำลังใจ กับการชนะการแข่งขันทั้งสองครั้ง มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันต้องทำได้ดีแน่ ๆ
5. ฉันมองหาโอกาสที่เหมาะอย่างมากกับภูมิหลัง
6. ฉันพัฒนาความหนังหนาตั้งแต่ตอนต้นๆ มันทำให้เปิดใจกว้าง ต่อคำวิจารณ์งานเขียน
7. ฉันเคยทำธุรกิจที่บ้านมาบ้าง จึงพอมีทักษะที่จำเป็นต้องใช้กับงานประเภทนี้
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : http://www.bangkokbiznews.com