e-book และหนังสือ ในความเปลี่ยนแปลงปี 2008

ทุกวันนี้โลกไซเบอร์สเปซอย่างอินเทอร์เน็ตนับว่ามีส่วนสำคัญและถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว ยิ่งการขยายตัวของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีเพิ่มขึ้นมากเท่าไร สิ่งต่างๆ บนโลกก็ยิ่งดูเหมือนจะต้องถูกออกแบบมาเพื่อใช้และสอดรับกับโลกอินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและกล้าแกร่ง ซึ่งสามารถเชื่อมความเป็นไปบนผืนโลกให้มาปรากฏหราอยู่หน้าจอของผู้ใช้งาน
โลกวรรณกรรมก็หลีกหนีไม่พ้นวัฏจักรนี้เช่นกัน เมื่อก่อนใครจะไปคิดว่าสักวันหนึ่งผู้รักการอ่านทั้งหลายจะสามารถอ่านงานเขียนผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ คงไม่มีใครคิดว่าจะสามารถดาวน์โหลดงานเขียนหลากหลายประเภทได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์
อินเทอร์เน็ตทำให้โปรแกรมเมอร์หลายคนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในการทำโปรแกรม e-book ขายให้กับหลายสำนักพิมพ์ซึ่งตอนนี้กำลังตื่นตัวกับการขายงานผ่านทางอีบุ๊ค โดยให้ผู้อ่านจ่ายค่าใช้จ่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ต หากประสงค์จะอ่านงานเขียนของนักเขียนในสำนักพิมพ์ของตัวเองที่คัดสรรเอามาไว้ให้นักอ่านได้ดาวน์โหลดอ่านกันทางอินเทอร์เน็ต ทั้งผ่านทางหน้าจอโน้ตบุ๊ค พีซีธรรมดา
ตอนนี้แม้แต่หน้าจอมือถือที่มีขนาดไม่กี่นิ้วก็ยังเป็นพื้นที่ให้นักอ่านได้เชื่อมโยงการอ่านงานวรรณกรรมจากมือถือได้อีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน
นอกจากโปรแกรมเมอร์จะขายโปรแกรมได้แล้วยังมีหลายเวบไซต์ที่เป็นกูรูในการให้คำปรึกษาแก่ผู้อยากเป็นนักเขียนเพื่อเขียนงานขายผ่านทาง e-book อีกด้วย
แม้ตอนนี้จะมีบล็อกเกอร์เกิดขึ้นมากมาย แต่บล็อกต่างๆ ก็เป็นเสมือนก้าวแรกในการเสนอตัวเป็นนักเขียนของบล็อกเกอร์ทั้งหลาย และอีบุ๊คเป็นพัฒนาการที่ค่อนข้างชัดเจนของอีกหลายสำนักพิมพ์
สำนักพิมพ์ที่ผงาดในโลกของ e-book เช่น Barnes and Noble, WH Smith, Amazon, Alexlit, HarperCollins, Penguin หรือแม้แต่ Lonely Planet ก็ประกาศตัวออกมาแล้วว่าพร้อมจะลุย และพร้อมให้บริการ e-book ผ่านทางเวบไซต์ โดยนักเดินทางทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลในไกด์บุ๊ค Lonely Planet ได้ในปี 2008 นี้แน่นอน
หลายสำนักพิมพ์พร้อมงัดกลยุทธ์และผลงานชิ้นเอกของนักเขียนดังออกมาเผยแพร่ทางอีบุ๊ค เพื่อสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่รักการท่องอินเทอร์เน็ตและรักการอ่านไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มคนท่องเน็ตคงไม่รู้สึกอะไรมากนักกับการมาของ e-book เพราะด้วยความเคยชินในการอ่านข้อมูลต่างๆ ของสื่อสิ่งพิมพ์ผ่านทางเวบไซต์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ ทุกวันนี้ต่างก็มีเวบไซต์ให้เข้าไปอ่านและดาวน์โหลดอ่านกันอย่างมากมาย
แต่สำหรับสำนักพิมพ์แล้วการมาของอีบุ๊คนับเป็นนวัตกรรมที่ค่อนข้างใหม่ และยังไม่มีผลสรุปออกมาว่ายอดรายได้จากอีบุ๊คในการดาวน์โหลดอ่านหนังสือนั้นมีรายได้ดีกว่าการขายหนังสือตามร้านหรือว่าเป็นอีกแรงโปรโมทหนึ่งให้ผู้อ่านอยากมาซื้อหนังสือจากร้านไปอ่านมากน้อยแค่ไหน
เพราะตอนนี้หลายสำนักพิมพ์อยู่ในกระบวนการของการทดลองใช้ระบบและคงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่งในการประเมินจุดคุ้มทุนต่างๆ
แม้ว่าอีบุ๊คจะได้เปรียบในลักษณะของการครอบคลุมไปทั่วโลก แต่ข้อจำกัดก็ยังมีอยู่ว่าจำกัดวงอยู่แค่ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือใช้เท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับหนังสือที่เป็นเล่มๆ แล้วก็นับว่ายังความสะดวกในการพกพาหรือข้อจำกัดต่างกันอย่างลิบลับ ในขณะที่หนังสือสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านที่อ่านออกเขียนได้ และสามารถพกพาไปอ่านได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อันอื่นเพิ่มเติม
แม้แต่นักเขียนชื่อดังหลายคนอย่าง เจ.เค.โรว์ลิ่ง ก็ยังปฏิเสธการเผยแพร่ผลงานเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ของเธอในรูปแบบของ e-book
การเติบโตขึ้นของ e-book ในอนาคตจะเป็นระบบที่ยากต่อการควบคุม รวมถึงเป็นระบบที่ง่ายต่อการละเมิดสิทธิต่างๆ มากมายตามมา เมื่ออีบุ๊คออกมาสนองตอบต่อนักอ่านและนักท่องเน็ตทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ หลายสำนักพิมพ์ก็ต้องหามาตรฐานในการควบคุมเรื่องลิขสิทธิ์อะไรต่างๆ มากขึ้น รวมถึงตัวนักเขียนเอง คงต้องทำสัญญากับสำนักพิมพ์ทั้งฉบับที่ทำขึ้นเพื่อหนังสือที่พิมพ์เป็นเล่มๆ และหนังสือที่พิมพ์แบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยไปในตัว
ไม่เพียงแต่อีบุ๊คจะเจริญเติบโต แต่ในส่วนของงานเขียนซึ่งถูกบรรจุไว้ในลักษณะของซีดีรอมเอง หรือแถบเสียงอะไรต่างๆ ก็เป็นอีกจุดขายที่นักลงทุนหลายคนอยากร่วมทุนกับสำนักพิมพ์เพื่อทำออกมาในรูปแบบซีดีลักษณะต่างๆ แต่ความแรงก็คงสู้กับอีบุ๊คยังไม่ได้
จากเมื่อก่อนที่ใครๆ ก็คิดว่า การมีเวบไซต์ของสำนักพิมพ์และปล่อยให้นักอ่านจากทั่วโลกสั่งซื้อหนังสือผ่านทางระบบออนไลน์ของอินเทอร์เน็ตนั้นเก๋สุดแล้ว แต่ตอนนี้ หลายสำนักพิมพ์ต้องใช้ความไฮเทค ความล้ำ ความเหนือชั้นของระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ ของการทำธุรกิจอีบุ๊ค เป็นอีกตัวแปรหนึ่งในการกำหนดทิศทางการลงทุนในโลกวรรณกรรมไปพร้อมๆ กันด้วย ไม่ใช่แค่การขายผ่านออนไลน์เท่านั้น แต่ต้องมีการขายให้อ่านกันทางการดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตด้วย ถึงจะเป็นธุรกิจที่ครบวงจร
สำนักพิมพ์เล็กๆ ทั้งหลายก็ต้องทำการค้าในระบบเดิมไปก่อน หากยังไม่มีความพร้อมในการทำ e-book เพราะอย่างไรเสีย ก็ยังมีอีกหลายประเทศในโลกที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับพวกเขา และก็ยังมีนักอ่านอีกหลายล้านคนที่ไม่ไยดีต่อการอ่านงานเขียนผ่านทาง e-book ในต่างประเทศ ร้านหนังสือหลายแห่งปริวิตกกับการต้องต่อสู้ขับเคี่ยวกับการมาของอีบุ๊ค และสัดส่วนทางการตลาดที่ถูกแชร์ไปจากธุรกิจอีบุ๊คด้วย
หลายคนยังรู้สึกว่าการมาของ e-book ก็เป็นเพียงแค่การรองรับโลกอินเทอร์เน็ตและเป็นผลพวงและผลพลอยได้ให้กับสำนักพิมพ์ ส่วนนักอ่านที่สนใจโลกวรรณกรรมแต่ไม่มีเวลาไปตามร้านหนังสือ ก็อาจอิงฐานข้อมูลจากอีบุ๊คหรืออ่านจากอีบุ๊คไปพลางๆ ก่อน แล้วจึงตัดสินใจไปซื้อหนังสือที่ร้าน ซึ่งในกรณีแบบนี้นับเป็นการได้รายได้สองต่อสำหรับสำนักพิมพ์ด้วย คือขายได้ทั้ง e-book และหนังสือที่เป็นเล่มๆ หลายสำนักพิมพ์ยังบอกอีกว่า การมาของอีบุ๊คช่วยในการลดภาวะโลกร้อน เพื่อประหยัดพลังงานในการผลิตกระดาษ และขั้นตอนการผลิตหนังสือต่างๆ ลงไปได้ แต่อันที่จริงก็ไม่ได้ช่วยลดภาวะโลกร้อนเสียทีเดียว เผลอๆ เป็นการทำให้โลกยิ่งร้อนขึ้นไปอีก เพราะหนังสือที่เอามาให้ดาวน์โหลดนั้น ต่างก็พิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มก่อนหน้าจะเป็นอีบุ๊คด้วยซ้ำไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นปี 2008 สำนักพิมพ์หลายแห่งคงทยอยกันพาเหรดประชาสัมพันธ์อีบุ๊คของตัวเองออกมาเป็นระยะ และการเผยแพร่งานในด้านนี้ ก็คงต้องดูไปอีกสักระยะหนึ่งว่าจะยืนอยู่ได้นานเหมือนหนังสือเป็นเล่มๆ ซึ่งวางขายบนชั้นหนังสือตามร้านขายหนังสือหรือไม่ และร้านหนังสือจะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาต่อสู้ รวมทั้งนักเขียนหลายคนรู้สึกยินดีกับ e-book มากแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมา
การมาของ e-book จะสามารถเปลี่ยนรสนิยมผู้อ่าน และเปลี่ยนให้ผู้คนหันเหออกไปจากเสน่ห์เดิมๆ ของหนังสือที่เป็นรูปเล่ม ซึ่งมีการจัดอาร์ตเวิร์คอย่างสวยงาม หน้าปกต่างๆ ที่ควรค่าแก่การเปิดอ่าน และการมีอิริยาบถหลากหลายในการอ่านหนังสือเป็นเล่ม ที่พกพาไปไหนมาไหนก็ได้ มีหนังสือเป็นเพื่อนกายนั้น จะยังคงสร้างความรื่นรมย์ให้แก่ผู้อ่านอยู่หรือไม่
แม้ว่า e-book จะถูกขานว่ามีเสน่ห์น้อยกว่าหนังสือ แต่การมาของอีบุ๊คก็เป็นการตอบโจทย์และบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกวรรณกรรม ตอนนี้ไม่ใช่คิดเพียงแค่ทำอย่างไรให้หนังสือพิมพ์ออกมาเป็นเล่ม แต่ปัจจุบันนี้สำนักพิมพ์หลายแห่งต้องคิดต่อไปอีกว่า ทำอย่างไรให้หนังสือเข้าถึงกลุ่มผู้สนใจทุกกลุ่มเป้าหมาย เพราะตอนนี้สำนักพิมพ์คงไม่พูดแค่ว่าเป็นคนทำหนังสือเท่านั้น
แต่จะต้องคิดไปอีกว่า หนังสือเล่มไหนทำแล้วขายในรูปแบบ e-book ได้ด้วย เรียกว่ามีโจทย์ให้คิดต่ออย่างไม่รู้จบ
นักอ่านคนไหนไม่ถนัดอ่าน e-book ก็ยังสามารถอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ได้เช่นเดิม ถึงอย่างไรหนังสือก็ไม่มีวันสูญพันธุ์ไปจากโลกวรรณกรรมแน่นอน
จุดประกาย วรรณกรรม
ปีที่ 21 ฉบับที่ 7052
วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2551