Daisy Zamora ดอกไม้ขบถแห่งนิการากัว

สำหรับคุณูปการอันประเมินค่ามิได้แก่วรรณกรรมนิการากัว รวมทั้งทุนกวีนิพนธ์จากสภาศิลปะแห่งแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เธอได้รับการยกย่องเป็นนักเขียนแห่งปี 2006 จากสมาคมศิลปินแห่งประเทศนิการากัว
บทกวี ความเรียง บทความและงานแปลของเธอเผยแพร่ตามนิตยสารและหนังสือพิมพ์ทั่วละตินอเมริกา แคริบเบียน สหรัฐ แคนาดา ยุโรป และออสเตรเลีย และบทกวีของเธอถูกรวมอยู่ในสรรนิพนธ์กว่าห้าสิบเล่มในภาษาสเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สวีเดน อิตาลี บัลแกเรีย รัสเซีย เวียดนาม จีน ดัตช์ เฟลมมิช สโลวัก และเช็ก ผลงานของเธอในฉบับภาษาอังกฤษ ได้แก่ Riverbed of Memory (1992) Clean Slate (1993) Life for Each (1994) และ Violent Foam (2002)
ปัจจุบัน เธอพำนักอยู่ที่มานากัว นิการากัว และซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เธอสอนกวีนิพนธ์ที่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ล่าสุดเป็นผู้บรรยายให้กับแผนกละตินอเมริกาและลาติโนศึกษา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานตาครูซ นอกจากนี้เธอยังเป็นจิตรกรและนักจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียงอีกด้วย
ตลอดชีวิต เดซี่ ซาโมราเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเป็นผู้ส่งเสริมสิทธิสตรี เธอพยายามทำสิ่งง่ายๆ อย่างเดียว — เธอพยายามเป็นตัวเอง
แต่สำหรับผู้หญิงในละตินอเมริกาแล้ว การพูดเพื่อตัวเองนั้นเป็นกิจกรรมทางการเมือง
วันของแม่
……………..
(สำหรับลูกๆ ของฉัน)
แม่ไม่สงสัยว่าลูกจะชอบ
มารดาผู้เฉิดฉายในโฆษณา
สมบูรณ์พร้อมด้วยสามีผู้น่าบูชาและลูกๆ ผู้มีความสุข
นางแย้มยิ้มเสมอ และถ้าร้องไห้บ้าง
ก็ขาดแสงและกล้อง
เครื่องสำอางถูกล้างจากใบหน้า
แต่เมื่อลูกกำเนิดจากท้องของแม่ แม่ควรบอกลูกว่า
ตั้งแต่แม่ยังเล็กเหมือนลูก
แม่อยากเป็นตัวเอง – – และสำหรับผู้หญิง ยากนัก – –
(แม้แต่เทพพิทักษ์ของแม่ ก็ไม่ค่อยปกปักรักษา
เมื่อนางได้สดับ)
แม่บอกไม่ได้ว่าแม่รู้หนทาง
แม่หลงทางบ่อยครั้ง
และแม่แล่นเรือชีวิตอันเจ็บปวด
ฝ่าแนวหินโสโครก ผจญพายุครั้งแล้วครั้งเล่า
ปฏิเสธเสียงของภูตผี
ซึ่งชวนเชิญแม่สู่อดีต
ไม่มีทั้งเข็มทิศหรือกล้องทางไกลส่องนำทาง
ทว่า แม่กล้าก้าว
ก้าวไปไขว่คว้าความหวัง
ณ ท่าเรือไกลโพ้น
ที่ลูก ๆ ของแม่ — แม่มั่นใจ —
จะเทียบท่าวันหนึ่ง
หลังจากแม่หลงทางอยู่กลางทะเล
………………………………………………
(จาก Mother’s Day ของ Daisy Zamora)
Life Style : Read & Write
โดย : ภูมิช อิสรานนท์
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ