Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

“500 เล่ม หนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน”

       
        

        จริงอยู่ หนังสือ เวลาในขวดแก้ว (ประภัสสร เสวิกุล) ที่ผ่านการตีพิมพ์มาแล้วถึง 34 ครั้งในรอบ 25 ปี  หรือ ชีวิตฉัน ลูกกระทิง (นพ.บุญส่ง เลขะกุล) คู่กรรม (ทมยันตี) ฯลฯ เป็นหนังสือในดวงใจของเด็ก วัยรุ่น และไม่รุ่นมากหลายคนโดยไม่จำเป็นต้องทำวิจัย  ทว่าการคัดสรร รวบรวมรายชื่อ “หนังสือดี” สำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อกระบวนการส่งเสริมการอ่านของไทย
        ด้วยแต่ละปี ตลาดหนังสือของไทยมีหนังสือที่จัดพิมพ์ขึ้นใหม่กว่า 13,000 เรื่อง ครอบคลุมทุกหมวด ทั้งที่คนไทยเขียนและแปลจากต่างประเทศ  ขณะที่ สถิติการอ่านหนังสือของคนไทยกลับตกต่ำกว่าประเทศนักอ่านในเอเชียหลายเท่าตัว
         ปัญหาที่คนไทยอ่านหนังสือกันน้อยมีหลายสาเหตุ  ปัจจัยหนึ่งอาจมาจากการที่ “ไม่รู้จะอ่านหนังสืออะไร(ดี)”  ด้วยเหตุนี้ ทางสมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน ซึ่งประกอบด้วย สมาคม ชมรม มูลนิธิ และองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหนังสือและส่งเสริมการอ่าน จึงจัดทำโครงการคัดสรรหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชนขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2541-2542  ภายใต้การสนับสนุนจากสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
        ต่อมาได้จัดพิมพ์ในรูปของหนังสือเล่ม ชื่อ 500 เล่ม หนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน  วางจำหน่ายในพ.ศ.2542  ซึ่งถือเป็นการแนะนำหนังสือดี พร้อมด้วยบทบรรณนิทัศน์ของหนังสือแต่ละเล่ม ที่มีหนังสือได้รับการคัดเลือกรวมกันมากที่สุด หลากหลายประเภทที่สุดด้วย
        กฎเกณฑ์ในการคัดสรรก็เปิดกว้าง  โครงการนี้ไม่กำหนดระยะเวลาพิมพ์ของหนังสือ ส่วนเนื้อหาเปิดรับทั้งบันเทิงคดีและสารคดี เป็นหนังสือที่แต่งโดยคนไทยหรือหนังสือแปลก็ได้ แต่ไม่ครอบคลุมหนังสือประเภทตำราเรียน
        คณะกรรมการคัดสรรหนังสือแบ่งเป็น 3 กลุ่ม พิจารณาหนังสือตามกลุ่มอายุของเด็ก ในแต่ละกลุ่มประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ได้แก่ ครู อาจารย์ด้านวรรณกรรมสำหรับเด็ก นักจิตวิทยาหรือนักสังคมวิทยา แพทย์ ผู้ทำงานองค์กรอิสระ บรรณารักษ์ นักการศึกษา และผู้ปกครองที่สนใจการอ่าน รวมทั้งสิ้น 22 คน 
        ปรากฏว่าหนังสือที่ได้รับการคัดสรรจำนวน 500 เรื่อง แบ่งตามกลุ่มอายุเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเด็กเล็ก วัย 0-8 ปี จำนวน 130 เรื่อง  กลุ่มเด็กโต วัย 9-15 ปี จำนวน 170 เรื่อง และกลุ่มวัยรุ่น 16-18 ปี จำนวน 200 เรื่อง 
       นอกจากเปิดกว้างสำหรับงานเขียนประเภทสารคดี โครงการนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่ที่มีการส่งเสริมการอ่านในเด็กแรกเกิดด้วย  หนังสือในกลุ่มเด็กเล็กนั้นครอบคลุมถึงเด็กที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก  ทางคณะกรรมการฯ จึงแบ่งหนังสือออกเป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอายุ 0-3 ขวบ-หนังสือที่พ่อแม่อ่านให้ฟัง (จำนวน 13 เรื่อง)  กลุ่มอายุ 3-5 ขวบ-หนังสือที่พ่อแม่และลูกอ่านด้วยกัน (จำนวน 30 เรื่อง)  กลุ่มอายุ 5-8 ปี-หนังสือส่งเสริมการอ่าน (จำนวน 87 เรื่อง)
      หนังสือดีในกลุ่มเด็กเล็กที่ทุกคนได้ยินแล้วต้องร้องอ๋อก็นิทานอย่าง อีโล้งโค้งเคล้ง, อึ, หนูนิดไม่อยากกินผัก และเรื่องอื่นๆ ในชุด “หนูนิด” จนเขยิบขึ้นไปถึง แมงมุมเพื่อนรัก และ โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง เป็นต้น

 

 

ภาพจาก:http://kidsquare.com