15 สำนักพิมพ์จาก 10 ประเทศ วิเคราะห์ตลาดหนังสือที่ ‘กรุงโซล’

ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ตัวผมเองไม่ได้บินไปเกาหลีใต้ด้วยตัวเองหรอกนะครับ แต่ว่ามีน้องๆ เดินทางไปร่วมงานนี้แล้วกลับมาเล่าสู่กันฟัง
ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ตัวผมเองไม่ได้บินไปเกาหลีใต้ด้วยตัวเองหรอกนะครับ แต่ว่ามีน้องๆ เดินทางไปร่วมงานนี้แล้วกลับมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นการประชุมระดับนานาชาติของบรรณาธิการจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ในหลายประเทศ
น้องคนที่ว่าคือ คุณศิริวิไล บัวศิริ บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ในเครือบริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเธอบอกว่า ไปในฐานะตัวแทนของสำนักพิมพ์เมืองไทยที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานนี้ เมื่อวันที่ 6-10 ก.ย. 2553 ที่ผ่านมา ที่ประเทศเกาหลีใต้ เธอบอกว่าเป็นการประชุมเกี่ยวกับธุรกิจสำนักพิมพ์ในประเทศต่างๆ แถบเอเชีย
จากบรรทัดนี้ไปเป็นการรายงานข่าวจากทีมงานของคุณศิริวิไลครับ…
—————————————
ในฐานะเป็นตัวแทนของสำนักพิมพ์จากประเทศไทยได้รับเชิญเข้าร่วมงานจากสมาคมผู้จัดพิมพ์แห่งประเทศเกาหลีใต้ Korea Publishers Society (KOPUS) ให้เข้าร่วมงาน Asian Publishers Fellowship Program in Seoul 2010 (APS)
งานในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมีตัวแทนจากประเทศไทยเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ก็จะมีตัวแทนจากสำนักพิมพ์ต่างๆ 15 สำนักพิมพ์ จากทั้งหมด 10 ประเทศ อาทิ ตัวแทนจาก Thinkingdom Media Group ประเทศจีน, ตัวแทนจาก Sun Ya Publications ประเทศฮ่องกง, ตัวแทนจาก Shinchosha Publishing ประเทศญี่ปุ่น, ตัวแทนจาก Moonji Publishing ประเทศเกาหลีใต้, ตัวแทนจาก World Scientific Publishing ประเทศสิงคโปร์, ตัวแทนจาก BOOK 11.com ประเทศไต้หวัน, ตัวแทนจาก Integra Majujaya ประเทศมาเลเซีย, ตัวแทนจาก Kim Dong Publishing House ประเทศเวียดนาม, ตัวแทนจาก Bhuana Ilmu Popular ประเทศอินโดนีเซีย ฯลฯ รวมทั้งตัวแทนจากประเทศไทย
โครงการนี้จัดขึ้นโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์แห่งเกาหลีใต้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในการทำงานด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์จากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ความเจริญก้าวหน้า และวิทยาการต่างๆ ในการทำงานด้านสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงแนวทางในการทำงานด้านหนังสือ ตลาดความต้องการของผู้อ่านในแต่ละประเทศ ธุรกิจหลักของแต่ละบริษัทที่เข้าร่วมประชุม ฯลฯ
นอกจากนี้ วัตถุประสงค์สำคัญอีกอย่างสำหรับการจัดประชุมครั้งนี้ก็คือต้องการสร้างเครือข่ายของผู้ทำงานด้านหนังสือ สิ่งพิมพ์ของประเทศต่างๆ ในเอเชีย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน เป็นการสร้างความเหนียวแน่นในความสัมพันธ์ทางธุรกิจให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมการอ่าน วัฒนธรรมการพิมพ์ เป็นการสร้างสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ทำธุรกิจสำนักพิมพ์เพื่อสร้างการพัฒนาให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ทำงานด้านนี้ที่เป็นคนเอเชียด้วยกัน
ในการประชุมครั้งนี้นั้นยังมีหัวข้อหลักในการพูดคุยนั่นก็คือธุรกิจหนังสือที่เรียกว่า "E-BOOK" หรือหนังสือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องอ่านผ่านจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้อ่าน E-Book โดยเฉพาะ อย่าง IPAD เป็นต้น ซึ่งในเอเชียเองนั้นมีหลายประเทศที่เริ่มธุรกิจด้านนี้และกำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้อ่านเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศไต้หวัน, ประเทศฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์ ฯลฯ ทำให้หลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะตัวแทนจากประเทศไทย ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินธุรกิจด้าน E-Book มากมายทีเดียว
ทางผู้จัดงาน Kopus ยังได้พาตัวแทนจากประเทศต่างๆ เยี่ยมชมสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการพิมพ์ เช่น สมาคมผู้จัดพิมพ์แห่งประเทศเกาหลีใต้, สถาบันการแปลแห่งประเทศเกาหลีใต้ ที่รวบรวมหนังสือซึ่งเป็นหนังสือแปลจากภาษาเกาหลีไปเป็นภาษาอื่นมากมาย อีกทั้งหนังสือที่แปลจากภาษาอื่นเป็นภาษาเกาหลี, ห้องสมุดแห่งชาติเกาหลีใต้ ที่มีความใหญ่โตและมีผู้มีใช้บริการเป็นจำนวนมากทุกวัน อีกทั้งยังมีห้องสมุดดิจิทัลที่มีความทันสมัย ผู้มาใช้บริการสามารถเข้ามาค้นข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือประเภท E-book, ภาพยนตร์, ดนตรี, คอนเสิร์ต ฯลฯ อีกทั้งยังมีห้องสำหรับให้บุคคลทั่วไปเข้ามาถ่ายทำรายการโทรทัศน์เพื่อทำประวัติส่วนตัวสำหรับการสมัครงานได้อีกด้วย
อีกสถานที่หนึ่งที่ผู้เข้าร่วมได้ไปเยี่ยมชมก็คือ Paju bookcity ซึ่งถ้าเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์นั่นเอง โดยมีการก่อสร้างให้เป็นเมืองแห่งการผลิตหนังสือโดยเฉพาะ มีสำนักพิมพ์และโปรดักชั่นเฮ้าส์จำนวนมากที่ไปรวมตัวตั้งออฟฟิศอยู่ในเมืองนี้ อีกทั้งยังมีโรงพิมพ์และอุตสาหกรรมต่างๆ ด้านการพิมพ์อยู่ครบวงจร
จากการเยี่ยมชมงานในครั้งนี้ ตัวแทนจากประเทศไทย คุณศิริวิไล บัวศิริ ได้ให้ความเห็นว่า "วัฒนธรรมการอ่านของประชาชนในประเทศเกาหลีใต้นั้น มีความชัดเจน เพราะมีจำนวนผู้คนที่ให้ความสนใจในเรื่องหนังสือเยอะมาก อัตราการอ่านต่อปีต่อคนสูง อีกทั้งรัฐบาลเองยังให้การสนับสนุนในด้านนี้เป็นอย่างมาก ให้งบประมาณสนับสนุนประชาชนและองค์การต่างๆ ในด้านการอ่าน มีการสร้างหน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหนังสือขึ้นมามากมาย"
โดยทางผู้จัดงาน Kopus บอกว่า สำหรับงานนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และถือว่าประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ ในปีต่อๆ ไปจะสานต่อให้มีการจัดงานขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเหนียวแน่นของกลุ่มคนที่ทำธุรกิจด้านการพิมพ์ในกลุ่มอาเซียน นอกจากนี้ยังถือเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางการอ่านระหว่างกัน เพื่อก่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านการอ่านและการจัดทำหนังสือในแต่ละประเทศ ซึ่งหนังสือนั้นก็คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาชีวิต พัฒนาความคิดของผู้คนในประเทศให้เติบโต และพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเอง
—————————————————–
ครับ-อ่านแล้วคงพอจะเห็นภาพรวมของความพยายามในการทำงานส่งเสริมด้านธุรกิจหนังสือและธุรกิจสำนักพิมพ์ในระดับนานาชาติชัดเจนขึ้นนะครับ ส่วนในเมืองไทยจะมีจัดงานประชุมระดับนานาชาติแบบนี้ขึ้นมาบ้างหรือไม่
เห็นทีต้องไปถามกระทรวงศึกษาธิการ หรือเจ้าภาพงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ-โน่นล่ะครับ!!
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : http://www.bangkokbiznews.com