Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

โครงการ One Book One Edinburgh


“คุณพกบทกวีหรือเปล่า?”  

 
             ประโยคคำถามโดดเด่นอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของ “เมืองวรรณกรรม” นามว่า เอดินบะระ (Edinburgh)   เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้รับการสถาปนาจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโกให้เป็นเมืองแห่งวรรณกรรม (City of Literature) ในปี 2004
             เว็บไซต์แนะนำเมืองไว้อย่างภาคภูมิ– “ยินดีต้อนรับสู่เมืองที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นจากหนังสือ คราคร่ำไปด้วยนักประพันธ์ นักอ่าน และดินแดนแห่งงานมหกรรมหนังสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
              ทำไมเอดินบะระถึงได้รับเลือกให้เป็นเมืองวรรณกรรม?
              ยูเนสโกเฉลยว่า เป็นเพราะเมืองนี้มีกิจกรรมที่ทรงคุณค่ามากมายเกี่ยวกับวรรณกรรมนั่นเอง และนอกจากจะเป็นที่พำนักของนักเขียนร่วมสมัยหลายคน เอดินบะระยังเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์ระดับตำนานมากมายอย่างเช่น  Sir Arthur Conan Doyle ผู้เขียน Sherlock Holmes นิยายสืบสวนสอบสวนอันโด่งดัง และ Robert Louis Stevenson ผู้ประพันธ์ Jekyll and Hyde และ Treasure Island  
สองปีหลังได้รับการประกาศเป็นเมืองวรรณกรรม เอดินบะระได้เปิดตัวโครงการ One Book One Edinburgh ขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้คนในเมืองได้อ่านวรรณกรรมที่ประพันธ์ขึ้นโดยคนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการของโครงการจะคัดเลือกหนังสือขึ้นมาปีละ 1 เล่ม นำมาจัดพิมพ์ขึ้นใหม่แล้วกระจายหนังสือเล่มนั้นไปทั่วเมือง
              Kidnapped เป็นหนังสือเล่มแรกที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการซึ่งต่อมาได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ในรูปแบบของนิยายขนาดสั้นและการ์ตูนสำหรับเด็กจำนวน 10,000 เล่ม แล้วนำมันไปวางไว้ตามที่สาธารณะ  ตั้งแต่สถานีรถไฟ ร้านกาแฟ หรือแม้แต่ในรถแท๊กซี่ บนหนังสือมีสติ๊กเกอร์เก๋ไก๋ติดเอาไว้ว่า “ฉันให้ฟรี—พาฉันกลับบ้าน แล้วอ่านฉันด้วย”
             เด็กๆ สามารถยืมหนังสือได้จากห้องสมุด ส่วนนักท่องอินเตอร์เน็ตก็สามารถดาวน์โหลดหนังสือจากเว็บไซต์เมืองวรรณกรรม cityofliterature.com แถมยังมีไฟล์เสียงให้ฟังอีกต่างหาก
            ปีต่อมา หนังสือที่ได้รับเลือกได้แก่ Jekyll and Hyde ตามด้วย The Lost World ในปี 2009
            ปี 2010 นี้ คณะกรรมการได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้น คือโครงการ “พกบทกวี” โดยเชิญชวนให้ชาวสก็อตเล่าเรื่องบทกวีที่พกติดตัว ไม่ว่าจะเป็นบทกวีที่พิมพ์อยู่ในรูปของปฏิทินพกพา สติกเกอร์ หรือแม้แต่เข็มกลัด พร้อมทั้งบอกเล่าถึงเหตุผลที่พกพาและความหมายของบทกวีชิ้นนั้น
            ชาวเมืองยังได้รับแจกหนังสือ Carry a Poem ซึ่งบันทึกเรื่องราวของคนเดินดินกับบทกวีชิ้นโปรดอีกด้วย
         

          ใครอยากได้หนังสือฟรี บินไปเอดินบะระได้เลย!

 


 ภาพจาก :http:// cityofliterature.com/