เสน่ห์แห่ง “ภาษาไทย” โดนใจ อ.หนุ่มแดนมังกร

จุดเริ่มต้นที่มีความสนใจในภาษาและวัฒนธรรมไทย ทำให้เด็กหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งเลือกเรียนวิชาเอกภาษาไทยในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเมื่อสำเร็จการศึกษา ก็ได้ทำตามความฝันมาเป็นอาจารย์ยังประเทศที่เขาชื่นชอบ
อาจารย์ Chen Chun Yu หรือ ในชื่อไทยว่า “วัชระ” อาจารย์ด้านการแปลจีนของมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่หลงใหลในเสน่ห์ของภาษาและวัฒนธรรมของประเทศไทย จึงเลือกศึกษาในวิชาเอกภาษาไทย ของมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน
อาจารย์หนุ่มไฟแรงรายนี้เผยว่า เขาสนใจเรียนภาษาและวัฒนธรรมไทย เพราะมณฑลกว่างซี มีพื้นที่ติดเวียดนาม และไม่ไกลจากเมืองไทย ซึ่งในทุกปีจะมีการจัดงานเอ็กซ์โป อาเซียน 4+1 เมื่อมีโอกาสไปร่วมงานก็กลายเป็นแรงบันดาลใจอยากเรียนรู้
“ในสมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย มีเปิดรับสมัครวิชาเอกภาษาไทย กับเวียดนาม แต่ความชอบส่วนตัว ผมชอบประเทศไทยมากกว่า ก็เลือกเรียนวิชาเอกภาษาไทย ซึ่งตอนแรกไม่ได้ตั้งใจเป็นพิเศษว่าจะทำงานด้านไหน คิดเพียงแค่ว่า ต้องการทำงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย จนกระทั่งเมื่อเรียนจบก็มีโอกาสได้มาสมัครเป็นอาจารย์ ที่ ม.หัวเฉียวฯ เพราะอุตส่าห์เรียนภาษาไทยมาแล้ว ก็ไม่อยากละทิ้งความรู้ที่เรียนมา”
อ.วัชระ เล่าว่า ชีวิตความเป็นอยู่ที่เมืองไทยสบาย เพราะมีจังหวะของชีวิตค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ กดดันเหมือนที่เมืองจีน
“ก่อนที่ผมมาเมืองไทย ก็ไม่ได้คิดว่าเมืองไทยจะเป็นแบบนี้ ผมพยายามหาหนังไทยมาดู ซึ่งดูเรื่ององก์บาก เมื่อมาถึงเมืองไทยจริงๆ จึงรู้สึกว่าประเทศไทยแตกต่างจากในหนังมาก เพราะตอนนั้นไม่ค่อยรู้อะไรกับเมืองไทยมากนัก แต่ก็ตัดสินใจเรียนเพราะชอบเมืองไทย และอยากรู้ภาษาเอเชียเพิ่มขึ้น ซึ่งในรุ่นที่ผมเรียน มีเพื่อนร่วมรุ่นเรียนภาษาไทยประมาณ 20 คน แต่ทุกๆปีก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันน่าจะมีไม่ต่ำกว่าพันคน เมื่อเรียนจบไป ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ เป็นพนักงานบริษัทของจีน หรือไต้หวัน ไปทำงานบริษัทท่องเที่ยวก็มีจำนวนมาก ซึ่งทำงานทั้งในประเทศจีน และไทย เพราะในพื้นที่เมืองจีนมีโรงงานที่นักธุรกิจไทยไปลงทุนเช่นกัน”
ในฐานะอาจารย์ในแวดวงการศึกษา อ.วัชระ ยังมองว่า ระบบการศึกษาไทย-จีน แตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบกัน พบว่านักศึกษาไทยมีจุดแข็งเรื่องการทำงานส่วนตัว การค้นคว้าด้วยตนเองมีความเก่ง แม้การเรียนภาษาอาจจะยังไม่ชำนาญมากเท่าคนจีน เพราะคนจีนขยันมาก แต่คนจีนก็ทำตามอาจารย์สั่งมากกว่า แตกต่างกับนักศึกษาไทยที่จะมีลูกเล่น การค้นคว้าที่ดี นอกจากนี้คนไทยทำงานละเอียด และมีรูปแบบออกนำเสนอสวยงาม
ส่วนในด้านการสอน เนื่องจากการสอนวิชาการแปล เป็นวิชาที่ค่อนข้างน่าเบื่อ อ.วัชระ เผยเคล็ดลับว่า มีเทคนิคพยายามหาสิ่งมาเปรียบเทียบ เพื่อดึงดูดความสนใจกับนักศึกษา
“ถ้าผมสอนตามตำราที่มีอยู่แล้ว ก็จะยิ่งน่าเบื่อ จึงพยายามหยิบเอาตัวอย่างในชีวิตประจำวัน หรือในละครไทย ที่นักศึกษาอยากรู้มาประยุกต์สอน แม้จะไม่ค่อยมีเวลา แต่ตัวผมเองก็ติดตามละครไทย เช่น ก่อนหน้านี้ ก็ดู สวยเริ่ดเชิดโสด เพราะนอกจากนำมาใช้ในการเรียนการสอนได้แล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะภาษาไทยให้กับตัวเอง โดยปัจจุบัน ผมพูด -ฟัง ได้ประมาณร้อยละ 90 แต่ยังเขียนไม่เก่งนัก และส่วนตัวคิดว่าเรื่องยากที่สุดในภาษาไทย คือ คำราชาศัพท์ ซึ่งถ้าใครชำนาญก็คงจะเป็นนักแปลที่ยอดเยี่ยมได้”
อ.วัชระ เล่าว่า ยังฝึกฝนภาษาไทยจากการพูดคุยกับคนไทย ไปเดินห้างก็พยายามอ่านป้าย เพราะหลักในการแปล คือ การสะสมความรู้ไปเรื่อยๆ จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก ต้องอ่าน ต้องดูข้างนอก เพื่อเพิ่มเติมความรู้เสมอ
สรุปส่งท้าย อาจารย์จากแดนมังกร กล่าวว่า เมื่อมองอีกด้าน สำหรับความสำคัญของภาษาจีน อาจารย์หนุ่มจีนเอกภาษาไทย เผยว่า ตลอด 3 ปีที่มาอยู่เมืองไทย พบว่านักศึกษาไทยมีความสนใจมากขึ้นไปเรียนที่ประเทศจีนมากขึ้น และมีความคุ้นเคยกับภาษาจีนกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากปัจจุบันภาษาจีนก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
“ประเทศจีนใหญ่โตมากยิ่งขึ้น เศรษฐกิจ หรือมูลค่ารวมต่างๆก็กลายเป็นอันดับสองของโลก กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ส่วนการค้าขาย ระหว่างจีนกับไทย ก็มีมาโดยตลอด ผมจึงคิดว่าภาษาจีน มีความจำเป็นน่าจะเป็นภาษาที่สองได้”
ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์