เลือกอ่านตามวัย
การเข้าใจความสนใจของเด็กแต่ละวัยสามารถช่วยผู้ใหญ่เลือกหนังสือที่เหมาะสมและถูกใจเด็กได้เป็นอย่างดี สำหรับเด็กทารกตั้งแต่แรกคลอดถึง 1 ปีนั้น ควรเป็นหนังสือภาพ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นกระดาษอย่างเดียว อาจเป็นหนังสือที่ทำจากผ้าหรือพลาสติกก็ได้ สิ่งดึงดูดความสนใจเด็กวัยนี้คือรูปภาพซึ่งมีขนาดใหญ่ ระบายสีสันสดใส จำพวกภาพสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องอ่านเฉพาะหนังสือภาพที่กล่าวมาเท่านั้น เราสามารถอ่านนิทานสั้นๆ หรือบทร้อยกรองสำหรับเด็กก็ได้ เพราะทารกชอบฟังเสียงที่เปล่งออกมาอย่างมีจังหวะสม่ำเสมอ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสร้างความคุ้นเคยกับภาษา
พอเริ่มรู้ความ หนังสือนิทานภาพสั้นๆ หรือบทร้อยกรองที่เด็กคุ้นเคยมาก่อนหน้าก็จะเป็นเหมือนเพื่อนเก่า เป็นท่วงทำนองที่เขาจดจำและท่องตามได้แม้ว่าจะอ่านไม่ออก ในวัย 2-3 ปีนั้น ประสาทสัมผัสทางหูของเด็กๆ จะดีเป็นพิเศษ พวกเขาสามารถจับทำนองและเสียงคล้องจองได้ไว เราจึงควรใช้นิทานคำกลอนในช่วงเวลาที่เกิดประโยชน์ที่สุด นอกจากนั้นก็อาจเลือกนิทานประกอบภาพที่เล่าสั้น ๆ ง่าย ๆ พิมพ์ด้วยตัวหนังสือตัวโตเห็นชัด ยิ่งมีคำซ้ำๆ อยู่ทุกหน้าด้วยแล้ว เด็กจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เขาจะอดใจรอคำนั้น หรือประโยคซ้ำ ๆ นั้น ตั้งแต่ผู้ใหญ่เริ่มหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมา
เมื่อถึงวัยอนุบาล ความสนใจของเด็กเริ่มยาวนานขึ้น ความคิดจิตใจถูกดึงดูดเข้าสู่เรื่องเล่าไม่ใช่แค่สมุดภาพประกอบคำบรรยายอย่างเก่า นิทานที่เลือกอาจจะยาวขึ้นแต่ก็ไม่ควรเกิน 20 หน้า และควรเป็นเรื่องเล่าไม่ซับซ้อน มีบทสนทนาโต้ตอบไปมา สนุก เข้าใจง่ายและชวนติดตาม ถ้าหากเป็นเรื่องใกล้ตัว หรือว่าตัวละครเป็นเด็ก หรือลูกสัตว์เล็กๆ เขาก็จะรู้สึกร่วมตามไปด้วย แต่ก็มีเด็กหลายคนที่ชอบนิทานพื้นบ้าน หรือเทพนิยายที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวละครที่เป็นเด็กอยู่ในเรื่อง หนูน้อยวัย 4-5 ขวบนี้ยังเป็น ‘หนูน้อยทำไม’ กล่าวคือจะสนใจไถ่ถามไปเสียทุกเรื่อง ตั้งแต่ดวงดาวบนฟ้า ไปจนถึงเรื่องอึ เพราะฉะนั้น หนังสือภาพความลับธรรมชาติ หรือเรื่องการรู้จักร่างกายของตัวเอง เช่น อึ ตด ก็เหมาะสมเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กและหนังสือให้ข้อมูลว่า หากเด็กคนไหนได้อ่านนิทานพันเรื่องก่อนที่เขาจะโต เขาจะกลายเป็นนักอ่าน จำนวนหนังสือสำหรับอ่านให้เด็กฟังตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำนั้นไม่มาก เพียง2-3 เรื่องเท่านั้น ในเวลาเพียงปีกว่า เด็ก ๆก็จะได้อ่านนิทานครบหนึ่งพันเรื่อง ใน 2-3 เรื่องนั้นควรจะประกอบด้วย นิทานเล่มโปรดที่เด็กชอบฟัง กับเรื่องใหม่อีก 1 หรือ 2 เล่ม เพียงเท่านี้ก็สร้างนักอ่านน้อยของชาติได้แล้ว