เรื่องผลของกิจกรรมก่อนการอ่านต่อความสามารถในการอ่านเพื่อเข้าใจ กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 60 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
ปาลิตา ทองย่น (2553) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ทำการวิจัยเรื่องผลของกิจกรรมก่อนการอ่านต่อความสามารถในการอ่านเพื่อเข้าใจ กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 60 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน ผลการวิจัยพบว่า การใช้กิจกรรมก่อนการอ่านทั้งสองรูปแบบทำให้กลุ่มตัวอย่างมีความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาพ มีพัฒนาการด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการตั้งคำถามก่อนอ่านอย่างมีนับสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มยังมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมก่อนการอ่านทั้งสองรูปแบบในระดับมาก แต่กลุ่มตัวอย่างที่มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาพมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ปาลิตา ทองย่น (2553). ผลของกิจกรรมก่อนการอ่านต่อความสามารถในการอ่านเพื่อเข้าใจ . วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (การสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ). ปัตตานี : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ : รศ.ดร.ธัญภา ชิระมณี.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมก่อนการอ่านสองรูปแบบ คือ การคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาค และการตั้งคำถามก่อนอ่าน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมก่อนการอ่านทั้งสองรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ต จำนวน 60 คน โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 30 คน ผู้วิจัยใช้แบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เพื่อจัดให้กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมีความสามารถทางการอ่านไม่แตกต่างกัน และดำเนินการทดลองสอนกลุ่มตัวอย่างทั้งสองด้วยกิจกรรมก่อนการอ่านที่แตกต่างกัน คือ กลุ่มตัวอย่างที่หนึ่ง เรียนโดยใช้กิจกรรมการคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาพ และกลุ่มตัวอย่างที่สองเรียนโดยใช้กิจกรรมการตั้งคำถามก่อนอ่านเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้และเอกสารประกอบการอ่าน 22 แผน แบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจใช้ก่อนและหลังการทดลอง และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อกิจกรรมก่อนการอ่าน ผู้วิจัยดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่ม กลุ่มละ 22 คาบ ในเวลา 11 สัปดาห์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่าการใช้กิจกรรมก่อนการอ่านทั้งสองรูปแบบทำให้กลุ่มตัวอย่างมีความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาพ มีพัฒนาการด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการตั้งคำถามก่อนอ่านอย่างมีนับสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มยังมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมก่อนการอ่านทั้งสองรูปแบบในระดับมาก แต่กลุ่มตัวอย่างที่มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการคาดเดาเนื้อเรื่องจากภาพมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ