Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

เรื่องการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ

ฮาลิเม๊าะ สนิ  (2553)  นักศึกษาปริญญาโท  สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ได้ทำการวิจัยเรื่องการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 30คน ผลการวิจัยพบว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ มีประสิทธิภาพ 84.44/83.11 ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของกลุ่มตัวอย่างจากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความคงทนในการเรียนรู้ของกลุ่มตัวอย่างจากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ ไม่มีความแตกต่างกัน


ฮาลีเม๊าะ สนิ (2553).  การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ .  วิทยานิพนธ์ศศ.ม. (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา).  ปัตตานี : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.  อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ :  – .


            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ และ 3) เพื่อหาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ

            กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ เขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2553 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีมาตราตัวสะกดแม่กก กด และกบ และ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้คือค่าเฉลี่ย  ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)

            ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ มีประสิทธิภาพ 84.44/83.11 2) ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านออกเสียงคำที่มีตัวสะกดมาตราแม่กก กด และกบ ไม่มีความแตกต่างกัน