Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

เยี่ยมบ้านศิลปิน…สุชาติ สวัสดิ์ศรี

 

 
พวกเรานัดกันไว้ว่าจะออกเดินทางไปเยี่ยมบ้านพี่สุชาติ สวัสดิ์ศรี ตอนสายๆวันอาทิตย์ ทีมของเราประกอบด้วยแก๊งค์ Alternative Writer ทีมงาน yes-wedo.com คุณทินกร หุตางกูร ซูเปอร์ชินจางงงงง จารี จันทราภา เอื้อ อัญชลี สุภาพ พิมพ์ชน และ พี่สิเหร่ จิรภัทร อังศุมาลี แต่กว่าจะได้ขยับตัวออกจากกรุงเทพฯก็ใกล้เที่ยง ไปถึงบ้านพี่สุชาติที่รังสิตก็บ่ายพอดี
 
ทีมงาน YES! หลายคนที่ไม่เคยบุกถิ่นแถวนี้ ถึงกับตะลึง ที่ได้เห็นบ้านสวนอันแสนร่มรื่นราวกับบ้านป่าในชนบท ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของย่านรังสิต ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เราเพิ่งขับรถผ่านความสับสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ เพียงครู่เดียวเราก็ได้มายืนอยู่ริมท้องร่องกลางสวนครึ้ม แดดบ่ายจะร้อนแค่ไหนก็ไม่อาจส่องมาเผากบาลใครได้ เจ้าของบ้านทั้งสามคน ส่งยิ้มอบอุ่นมาทักทาย วันนี้ครอบครัวสวัสดิ์ศรีอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพี่สุชาติ พี่ศรีดาวเรือง และโมน สวัสดิ์ศรี ผู้สืบสายเลือดศิลปินนักเขียนและบรรณาธิการมาจากพ่อ
 
ทีมของเรามีสมาชิกต่างวัย ไล่ลงมาตั้งแต่ห้าสิบถึงสามขวบ แต่ความตื่นเต้นของบ้านสวนหลังนี้ก็มีให้มากพอสำหรับความสนใจทุกระดับ บางคนก็ตื่นเต้นกับหนังสือมากมายที่เจ้าของบ้านสะสมไว้เป็นห้องสมุด ภาพวาดสวยๆฝีมือพี่สุชาติจำนวนนับพันรูป ด้วยเทคนิคสารพัดสร้างสรรค์ขึ้นจากสิ่งต่างๆรอบตัว ส่วนทีมงานรุ่นเยาว์ก็ระริกระรี้ไปกับเจ้าหมาน้อยขนฟูของพี่สุชาติ ทั้งคนทั้งหมาวิ่งวุ่นกันริมท้องร่อง ส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ชวนให้เจ้าของโรงงานผลิตเด็กสองโรงหวาดเสียว กลัวลูกจะกลิ้งตกลงไปหมักโคลน แต่วันนั้นก็โชคดี เราไม่ต้องลากลูกใครขึ้นมาใส่ตะกร้าล้างน้ำ ha ha
 
สายลมแผ่วๆใต้เงาไม้ร่มรื่น กับขนมจีนแกงไก่หม้อโต ขนาดเลี้ยงพระได้ทั้งวัด อภินันทนาการโดยคุณนิวัต พุทธประสาท ทำให้เราลืมตัวไปว่าจะมาทำงานไม่ได้มาปิคนิค!! ขณะที่เบียร์หนึ่งลังที่เราซ่อนไว้ท้ายรถ ก็ร้องโวยวายให้เรารีบเอามันไปเข้าช่องฟรีซ… กินขนมจีนไปคุยไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ใครบางคนแอบแตะปลายนิ้วบนกระป๋องสีเขียวในตู้เย็น และพบว่ามันกำลังเย็นได้ที่เชียว …แล้วปาร์ตี้ก็เริ่มต้น (งานเอาไว้ทีหลัง)
 
 
 
เราขอให้พี่สุชาติพาไปเยี่ยมชมผลงานภาพวาด แล้วเราก็ได้ตะลึงอีกที กับพลังสร้างสรรค์ ผลงานจิตรกรรมเต็มพื้นที่ห้องเก็บผลงาน และเท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเราบุกขึ้นไปบนเรือนชั้นบน ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ทำงานและห้องสมุดของบ้านนี้ (โฮมออฟฟิศ?) ก็ได้พบภาพสวยๆไม่น่าจะต่ำกว่าพันรูป ทั้งบนผืนผ้าใบ กระดาษ และสมุดวาดเขียน และยิ่งไปกว่านั้น พี่สุชาติได้หยิบสมุดเล่มหนึ่งที่มีความหนา-จำนวนหน้ามากกว่าสมุดหน้าเหลือง มาให้เราเปิดดู ทีมงานถึงกับอึ้ง เพราะทุกหน้าในสมุดเล่มนั้น มีภาพวาดลายเส้น ดูราวกับมีชีวิตกระโดดโลดเต้นอยู่ครบทุกหน้า แต่ละรูปมีความสด มองเห็นความเฉียบขาดฉับไวของเส้นสายจากปลายดินสอ ชวนให้คิดว่าผู้วาดอาจใช้เวลาช่วงที่กำลังหายใจเข้าจรดมือลงบนกระดาษ และวาดเสร็จก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกมา เพื่อจับภาพความคิดที่แล่นผ่านมาในสมอง เพียงชั่วเศษของวินาทีให้ทันทุกเสี้ยวอิริยาบท ใครบางคนที่ได้เห็นงานเหล่านี้ ถึงกับฝันไกลไปจนเห็นภาพผลงานทั้งหมดปรากฏบนจอในลักษณะแอนิเมชั่น ฝันถึงการนำเสนอผลงานออกมาในลักษณะ Integrated Media และการทำ Virtual Gallery ซึ่งพี่สุชาติก็เป็นศิลปินที่มีหัวใจเปิดกว้างพอที่จะยอมรับในทุกความเป็นไปได้ของจินตนาการและเทคโนโลยี
 
มีผลงานหลายชิ้นบอกเล่าเรื่องราวของความรัก มีไม่น้อยเป็นงานอีโรติคในแง่มุมต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพนามธรรมที่ปล่อยให้จินตนาการของผู้ชมได้เติบโตอย่างอิสระ แต่ทีมงานตาดีของเราก็แอบเห็นว่าก่อนที่กระบวนการสร้างสรรค์ จะหลุดจากกรอบออกมาสู่ความเป็นศิลปะนามธรรม พี่สุชาติก็ผ่านการพิสูจน์ทักษะฝีมือมาด้วยภาพเหมือนจริง ซึ่งมีทั้งภาพงานพอร์ทเทรท และภาพภูมิทัศน์ ที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของทุกสิ่งจากตาสู่มือได้อย่างวิจิตรบรรจง โดยไม่ลืมสอดใส่แง่มุมนามธรรมลงไปด้วยแม้กระทั่งในภาพเหมือน สิ่งนี้เป็นลักษณะหนึ่งที่เรา (ผู้ไม่สันทัดกรณีทางศิลปะ แต่สัมผัสด้วยใจ) สามารถสัมผัสได้ในแนวทางการทำงานของศิลปินผู้นี้ ถึงแม้ว่าพี่สุชาติจะถ่อมตัวว่าท่านเป็นเพียงมือใหม่ และไม่ได้ผ่านการร่ำเรียนมาตามระบบเหมือนท่านอื่นๆ แต่ผลงานของที่กำลังจะมีจัดแสดงในเดือนมีนาคมนี้ ที่วังสวนผักกาด ในชื่อ "ความงามจงมี" คงจะเผยให้ใครอีกหลายคนได้เห็นพรสวรรค์และพลังการสร้างสรรค์ของท่าน
 
เนื่องจากเราไม่ได้วางแผนทำงานกันอย่างเป็นทางการนักสำหรับการมาในครั้งนี้ ตั้งใจว่าจะเป็นเพียงการมาเยี่ยมคารวะพี่สุชาติ และสำรวจสถานที่เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าเราจะต้องเตรียมกำลังพลมาเท่าไหร่ ในการเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลในอนาคต ซึ่งเราก็ได้คำตอบกับตัวเองเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เรารบกวนพี่สุชาติด้วยการถาม ถาม และถาม จนท่านคงจะเหนื่อยตอบ และเสียงเฮฮาจากวงสนทนาพร้อมสุราอาหารข้างล่างก็ดังยั่วยวนใจจนเราทำงานต่อไปไม่ไหว คณะทำงานของเราก็เคลื่อนทัพกันลงมาร่วมวง ในเวลาที่แดดร่มล่มตกกำลังดี มีแผนกสาธิตวิธีการห่อเมี่ยงคำให้ได้น้ำได้เนื้อ
 
ขณะที่เรากำลังครึ้มๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของพี่สิเหร่ก็ดังขึ้น ทุกคนเงียบกริบ กับริงโทนเพลง "พี่มีเมียแล้ว" ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนไม่สนใจเทคโนโลยีอย่างพี่ทั่น จะมีปัญญาเซ็ทอัพเครื่องหรือโหลดริงโทนมาใช้ด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นต้องถามด้วยว่าริงโทนเพลงนี้ ใครเป็นคนตั้งให้
 
พี่สุชาติยิ้มกริ่ม โชคดีที่ผมไม่ได้ใช้มือถือ (ฮา)
 
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : http://www.yes-wedo.com