เขาคือ ภูมิชาย คชมิตร นักเขียนมาแรงแห่งยุค

ชื่อ ภูมิชาย คชมิตร ในวันนี้ คงปฏิเสธกันไม่ได้ว่ามาแรงเหลือเกิน เพราะเล่นครองหน้าวารสาร นิตยสาร ในคอลัมน์ เรื่องสั้น บทกวี แทบทุกหัว ทุกสี
หลายคนอยากรู้เหลือเกินว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และ ทำไม ถึงได้มาปรากฎชื่อ ในแวดวงวรรณกรรม เพียงเวลาแค่ ปีเศษๆ มีผลงานตีพิมพ์นับไม่ถ้วน แซงหน้านักเขียนเก่า ๆที่เคยครองหน้าหนังสือแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น
วันนี้ เขาให้โอกาส "อีสานไรเตอร์" พูดคุยและเปิดใจ อาจจะเป็นที่นี่ที่แรก และที่เดียวก็ได้
เขาบอกว่า จบคณะมนุษยศาสตร์ สาขา สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย การเขียนหนังสือในครั้งแรกได้ทดลองเขียนในหลายแบบ ทั้งบทกวี และเรื่องสั้น เริ่มส่งไปตามนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ต่างๆ อย่างจริงจังเมื่อปี 2539 และได้รับรางวัลเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ในเรื่องสั้น "โอเล่กับโอวัลติน" ซึ่งได้รับโล่ห์เกียรติยศจาก นายรังสรรค์ แสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่จัดโดยกลุ่มวรรณศิลป์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ในภายหลัง เรื่องสั้นเรื่อง "โอเล่กับโอวัลติน" ได้รับพิจารณาตีพิมพ์ที่นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ในปี 2548 (8 ปีต่อมา) และเรื่องสั้นในยุคแรกได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ อีกหลายๆ นิตยสาร อาทิ เรื่องสั้น "อยู่ไหนลูกชายแม่" เขียนปี 2539 ตีพิมพ์ที่นิตยสารสยามรัฐ สัปดาห์วิจารณ์เมื่อปี 2548 และบทกวีเริ่มปรากฎในเรื่องสั้น "อยู่ไหนลูกชายแม่" เป็นการเขียนบทกวีในเรื่องสั้นที่กล่าวถึงการร้องสรภัญญะ เรื่องราวเกี่ยวกับบ้านเกิดในชนบทอีสาน
จากนั้นมีผลงานตีพิมพ์ ตามนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ.2541 อาทิ เรื่องสั้น: ก่อนเสียงปืนจะดัง ตีพิมพ์ในกรุงเทพธุรกิจ จุดประกายวรรณกรรม
เรื่องสั้น: คุณธรรมของสาวพนักงานขายตั๋ว ตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน คอลัม "เรียงร้อยถ้อยคำ"
เรื่องสั้น : ลมหนาว ตีพิมพ์ในนิตยสาร เราคิดอะไร และเรื่องสั้นต่างๆ ทยอยตีพิมพ์ตามนิตยสารต่างๆอีกเรื่อยมา
หลังจบการศึกษา เขาบอกว่า ได้ทำงานอยู่หลายแห่ง กระทั่งเดินทางกลับมาบ้านเกดที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และเขียนหนังสือส่งตามนิตยสาร อย่างจริงจัง และสม่ำเสมอ โดยยึดการเขียนหนังสือเป็นอาชีพหลัก และควบคุมการทำงานเขียนให้ชัดเจน และค้นพบสไตล์การทำงานของตนเอง โดยเฉพาะรูปแบบปรัชญาธรรมชาติ ซึ่งตอนแรกเขาเองเรียกงานเขาว่า "สัญลักษณ์นิยม" คือทุกอย่างในดลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ต่างๆสามารถเป็นตัวละครได้ในช่วงนี้ มีผลงานตีพิมพ์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องสั้น : สิงโตกับต่อและเจ้าของร้านชำ ใน เนชั่นสุดสัปดาห์ ปี 2547
เรื่องสั้น : ปรัชญารองเท้า ใน กรุงเทพธุรกิจ ปี 2547
เรื่องสั้น : อยู่ไหนลูกชายแม่ ใน สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ปี 2548
เรื่องสั้น : โอเล่กับโอวัลติน ใน เนชั่นสุดสัปดาห์ ปี 2548
เป็นต้น
บทกวี : คืนแสงสว่างให้ตะวัน
หิ่งห้อย
บินสูงมุ่งไปสู่ยอดไม้
แสงดาวนั้นเล็กลง เล็กลง
พระจันทร์
ยังคงส่องแสงเท่าเดิม
แม้อยู่ไกลจากหิ่งห้อย
เมื่อเวลาผ่านไป
กลางคืนพลันซีดจาง
ครั้นกลางวันมาถึง
กลางคืนก็ลับลา
แม้อยู่ไกลแสนไกลจากสายตา
พระจันทร์ยังหายไป
แต่หิ่งห้อยยังคงอยู่
และกำลังหลับใหลอยู่บนต้นไม้
แม้ว่าอยู่ไกลแสนไกลกัน
ทว่าทั้งสองต่างก็ไม่ลืม
ที่จะคืนแสงนวล
กลับสู่อาณาจักแสงสว่าง
อันกว้างใหญ่ไพศาล
บนดวงตะวัน
ภูมิชาย คชมิตร
ขอบคุณเรื่องราวจาก : http://www.oknation.net/blog/esanwriter/2007/11/28/entry-1