Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

อุ่นรักไอฝันกับวันเวลาในขวดแก้ว 25 ปี

 

 
เชื่อแน่ว่านักอ่านทุกคนน้อยคนนักที่จะไม่เคยรู้จักนวนิยายเรื่องเวลาในขวดแก้ว ซึ่งเป็นนวนิยายเรื่องที่ 4 ของประภัสสร เสวิกุล เพราะโด่งดังมายาวนานนับเวลาได้ถึง 25 ปีแล้ว แรกเริ่มเดิมทีนวนิยายเรื่องนี้ลงพิมพ์เป็นตอนๆในนิตยสารสายทิพย์ของค่ายสยามสปอร์ตฯ เมื่อ พ.ศ.2527 ต่อมาเมื่อนิตยสารสายทิพย์ปิดกิจการลงไป ประภัสสรจึงมาลงต่อจนจบในนิตยสารนรี ในปี 2528
 
 
และพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์ดอกหญ้าในปี 2528 ในรูปเล่มพ็อกเกตบุ๊ก 16 หน้ายกไซส์พิเศษ (10 คูณ 18 ซม.) ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมากจนต้องพิมพ์ซ้ำเป็นจำนวน 5 ครั้ง และต่อมาได้ปรับรูปเล่มเป็นแบบ 16 หน้ายก ก็สามารถพิมพ์ซ้ำได้อีก 25 ครั้ง ต่อมาสำนักพิมพ์นิลุบล ได้จัดพิมพ์ 2 ครั้ง และสำนักพิมพ์อรุณ จัดพิมพ์อีก 1 ครั้ง จนถึง พ.ศ.2552 นี้ ได้จัดพิมพ์ขึ้นใหม่อีกครั้งในวาระครบรอบ 25 ปี โดย แพรวสำนักพิมพ์ รวมมีการจัดพิมพ์ทั้งสิ้น 34 ครั้ง
 
นับว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของงานเรื่องนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นงานศิลปะรูปแบบอื่นๆทั้ง ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ในส่วนของภาพยนตร์นั้น นวนิยายเรื่อง เวลาในขวดแก้ว ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก ในปี 2534 จากการอำนวยการสร้างของ ประยูร วงศ์ชื่น นำแสดงโดย นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร, ปวีณา ชารีฟสกุล และ วาสนา พูนผล
 
 
ปรากฏว่านอกจากจะทำรายได้เป็นที่น่าพอใจแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (ปวีณา ชารีฟสกุล) บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (อมรศรี เย็นสำราญ) และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (คณะบัตเตอร์ฟลาย) รวม 4 รางวัล จากการประกวดภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ประจำปี 2534 นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (ปวีณา ชารีฟสกุล) และผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (มยุรา ธนะบุตร) จากการมอบรางวัลของชมรมวิจารณ์บันเทิงอีกด้วย
 
ต่อมาในปี 2535 ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรก โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 กำกับการแสดงโดย อมรศรี เย็นสำราญ นำแสดงโดย สมชาย เข็มกลัด, แอน ทองประสม และ ปวีณา ชารีฟสกุล และต่อมาในปี 2543 บริษัท ชาโดว์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในเครือ RS ได้นำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกครั้งและออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 โดยมี ธนา สุทธิกมล, อลิชา ไล่สัตรูไกล และ ฌัชฌา รุจินานนท์ แสดงนำ
 
เรียกได้ว่า นวนิยายเรื่อง เวลาในขวดแก้ว ได้รับความชื่นชมจากนักอ่านรุ่นต่อรุ่น ว่าเป็นนวนิยายร่วมสมัยที่สะท้อนชีวิตและปัญหาของวัยรุ่นในด้านต่างๆ ทั้งครอบครัว ความรัก การศึกษา สังคม และการเมือง ได้อย่างละเมียดละไม สมจริง และเปี่ยมไปด้วยชีวิตจิตใจ ขณะเดียวกันก็แสดงถึงมิตรภาพ การเสียสละและความผูกพันระหว่างเพื่อนฝูงและพี่น้องได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยคุณค่าทางวรรณกรรมที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกเป็นหนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย
 
และด้วยความยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าของนวนิยายเรื่องนี้ ทำให้เกิดงาน 25 ปี "อุ่นรักไอฝัน กับวันเวลาในขวดแก้ว" โดย ฯพณฯ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552 ณ อุทยานการเรียนรู้แห่งชาติ (ทีเค พาร์ค)
 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวว่า ตนเองมีความยินดีที่ได้มาอยู่ท่ามกลางท่านผู้รักการอ่าน และได้รับทราบด้วยความยินดีว่าหนังสือ ''เวลาในขวดแก้ว'' ซึ่งเป็นหนังสือที่ผมเคยอ่านด้วยความชื่นชมเล่มหนึ่งนั้น บัดนี้มีอายุได้ 25 ปีแล้ว หากนับด้วยระยะของกาลเวลาก็ถือได้ว่าหนังสือเล่มนี้ได้ผ่านช่วงเวลามายาวนานพอสมควร แต่เรื่องราวและเหตุการณ์หลายๆ อย่าง ที่ผู้ประพันธ์คือ คุณประภัสสร เสวิกุล ได้ถ่ายทอดไว้ในหนังสือเล่มนี้นั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ร่วมสมัยแม้ในปัจจุบัน
 
 
"ผมได้ทราบว่าในโอกาส 25 ปี เวลาในขวดแก้ว นี้ มีการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมหลายอย่าง อาทิ นิทรรศการเกี่ยวกับหนังสือ "เวลาในขวดแก้ว" การเสวนา การให้ความรู้ด้านศิลปะวาดภาพแก่เยาวชน รวมทั้งการอ่านหนังสือเสียง"เวลาในขวดแก้ว" เพื่อมอบแก่ผู้พิการทางสายตาและผู้สูงอายุ ซึ่งผมขออนุโมทนาในเจตนาอันดีของผู้จัด"   
ขณะที่ ประภัสสร เสวิกุล ในฐานะเจ้าของบทประพันธ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากที่นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการต้อนรับจากนักอ่านมายาวนานและคงไม่ต้องสงสัยว่า เขาจะเขียนเวลาในขวดแก้วภาคสองหรือไม่ เพราะตอบได้เลยว่า ไม่เขียนอย่างแน่นอน เพื่อให้ทุกอย่างจบลงอย่างสมบูรณ์ในเล่มนี้และไม่มีอะไรจะแก้ไขเพิ่มเติมอีกแล้ว
 
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะอ่านเรื่องราวที่มาที่ไปและเบื้องหน้าเบื้องหลังของนวนิยายเรื่องนี้ รวมถึงบทสัมภาษณ์ความในใจลึกๆของ ประภัสสร เสวิกุล ก็สามารถหาอ่านได้ในนิตยสารอักษรสาร ฉบับเดือนกันยายน ที่วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำ เพราะเป็นฉบับ 25 ปี เวลาในขวดแก้ว ที่พร้อมพรั่งไปด้วยเนื้อหาและภาพถ่ายหาดูยากของ ประภัสสร เสวิกุล
 
 
ประภัสสร เสวิกุล
อดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย (2544-2548) และอดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี 
เกิด 22 เมษายน 2491 ที่ กรุงเทพมหานคร
สมรสกับ ชุติมา (วรฉัตร) เสวิกุล นักเขียนสารคดี นามปากกา นิลุบล นวเรศ
มีบุตร สองคน คือ ชาครีย์นรทิพย์ และ วรุตม์ชัย
 
 
การศึกษา
รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการเมืองการปกครองเปรียบเทียบ หลักสูตรการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 8 สถาบันพระปกเกล้า
กำลังศึกษา หลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาศิลปศาสตร์ แขนงวิชาสารสนเทศศาสตร์ มสธ.
การฝึกอบรม          
หลักสูตรนักบริหาร กระทรวงการต่างประเทศ
ได้รับทุนโคลัมโบ ไปศึกษาภาษาอังกฤษ ที่ La Trobe University, Melbourne, Australia
หลักสูตร Writing/Editing for Print Media จาก Department of Journalist, School of  Language and Communication, Wellington Polytechnic, New Zealand
หลักสูตร English as a Second Language จาก Victoria University of Wellington, New Zealand 
 
การรับราชการ            
เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ เมษายน พ.ศ.2512
2518-2522 ออกประจำการครั้งแรกในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ สถานเอกอัครราชทูตไทย 
ณ นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
2522 -2524 ผู้ช่วยเลขานุการ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบอน์น ประเทศเยอรมนี 
2529-2533 เลขานุการตรีและเลื่อนเป็นเลขานุการโทสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี
2536-2540 เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์
2548-2551 ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี
 
 
ด้านวรรณกรรม                  
2546-2548 นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สมัยที่สอง                              
2544-2546 นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สมัยที่หนึ่ง
2525-2526 เลขาธิการสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
 
 
ผลงานในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย 
ผู้ริเริ่ม รางวัลนราธิป เพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนและบรรณาธิการอาวุโส ผู้สร้างสรรค์ผลงานสืบเนื่องยาวนาน และเป็นที่นิยมยกย่องอย่างกว้างขวาง
ดำเนินการหาทุนเพื่อสร้างที่ทำการถาวรของสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย 
จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานสัมพันธ์กับนักเขียนและสโมสรนักเขียนทั่วประเทศ และขยายความสัมพันธ์นี้ไปยังนักเขียนและสมาคมนักเขียนในประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นผู้ริเริ่มจัดงาน ที่ระลึก 100 ปี เรื่องสั้นไทย และนิทรรศการครบรอบ 20 ปี แห่งการเสียชีวิต ของ มนัส จรรยงค์ ในปี 2525  
เป็นผู้ริเริ่มทำบัตรโทรศัพท์ ที่ระลึก 100 ปี 4 ยอดนักเขียนไทยในปี 2548 ประกอบด้วย ดอกไม้สด – ม.จ.อากาศดำเกิง รพีพัฒน์ – ศรีบูรพา และ ไม้ เมืองเดิม
เป็นผู้ร่วมริเริ่มให้เกิดโครงการอบรมเยาวชน "กล้าวรรณกรรม"
 
ผลงานและความร่วมมืออื่นๆ ที่ให้กับวงการวรรณกรรมที่ผ่านมา 
เป็นประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดประกวดวรรณกรรมต่างๆ 
เป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายเกี่ยวกับการประพันธ์ และการสร้างสรรค์วรรณกรรมไทย ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ในโรงเรียน และมหาวิทยาลัย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เป็นวิทยากรพิเศษ ในการอบรมเยาวชนนักเขียน ในช่วงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ สัปดาห์ห้องสมุด และสัปดาห์แห่งการรณรงค์การใช้ภาษาไทยและการรักการอ่าน ฯลฯ
 
ผลงานรางวัล บทกวี เรื่องสั้น และนวนิยาย ที่ได้รับรางวัล
2510 รางวัลชนะเลิศบทกลอนส่งเสริมสินค้าไทย ของ สภาสตรีแห่งชาติ  
2520 อีกวันหนึ่งของตรัน เรื่องสั้นดีเด่น รางวัล อนุสรณ์ ว. ณ ประมวลมารค                         
2521 อีกวันหนึ่งของตรัน รางวัลเรื่องสั้นดีเด่นจากสมาคมภาษาและหนังสือ ประจำปี 2521
2526 อำนาจ รางวัลชมเชยจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2526                
2530 เด็กชายมะลิวัลย์ รางวัลดีเด่นประเภทบันเทิงคดีสำหรับเด็กและเยาวชน จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2530
2531 ชี้ค รางวัลดีเด่น จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2531
รางวัลชมเชยวรรณกรรมบัวหลวง ปี 2532
รางวัลชมเชย จาก ปปป. ปี 2534     
2533 ครีบหัก รางวัลชมเชย ประเภทเรื่องสั้น จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2533
2533 ลอดลายมังกร รางวัลชมเชย จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2533
2534 ขอหมอนใบนั้น…ที่เธอฝันยามหนุน รางวัลชมเชย จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2534
2537 หิมาลายัน รางวัลชมเชย จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2537  
2541 สำเภาทอง รางวัลชมเชยจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2541
2547 พระจันทร์ทะเลทราย รางวัลชมเชยจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2547
2549 "หัวกะโหลกสองใบ" รางวัลชมเชยประเภทเรื่องสั้นดีเด่นในรอบปี จาก สมาคมภาษาและหนังสือ
2550 "จดหมายจากชายชราตาบอด" รางวัลชมเชย ประเภทเรื่องสั้น จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2550
2550 "ผีเสื้อและหิ่งห้อย" รางวัลชมเชย ประเภทนิยาย จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี 2550
หนังสือที่ได้รับเลือกให้เป็นหนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน โดยสมาพันธ์เพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน
พ.ศ.2541-2542 ได้แก่ อำนาจ เวลาในขวดแก้ว เด็กชายมะลิวัลย์ ลอดลายมังกร ขอหมอนใบนั้น…ที่เธอฝันยามหนุน หิมาลายัน สำเภาทอง

ขอบคุณเรื่องราวจาก :  http://www.siamdara.com