อาสาสมัครนักอ่าน
งานอาสาสมัคร เป็นสิ่งที่นำความอิ่มเอมใจมาให้ผู้ที่เป็นอาสาสมัครและผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือเสมอ หนุ่มสาวมากมายอาสาสมัครในโครงการที่เป็นรูปธรรมอย่างการสร้างบ้านให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย โครงการทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กยากจน แต่ยังมีอาสาสมัครอีกหลายคนที่ผลงานของพวกเขาไม่อาจเห็นเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้ที่มีความสุขจากหนังสือที่เขาอ่านให้ฟังเท่านั้น
ใช่แล้ว…พวกเขาคือ “อาสาสมัครนักอ่าน” ซึ่งมีการเปิดรับสมัครตามวาระต่างๆ ทว่าการระดมพลอาสาสมัครรักการอ่านครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง คืองานกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติเมื่อเดือนเมษายน 2550 เมื่ออาสาสมัครนักอ่านจำนวน 150 คน กระจายตัวกันไปอ่านหนังสือให้เด็กและผู้สูงอายุฟังตามสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาลเด็ก บ้านพักคนชราบางแค สถานสงเคราะห์เด็กบ้านราชวิถี และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนมัสยิดนูรู้ยากีน เป็นต้น
การอ่านออกเสียงให้คนอื่นฟังนั้น แค่เพียงอ่านหนังสือรู้เรื่องนั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องอ่านให้ผู้ฟังเข้าใจและเกิดจินตภาพ อาสาสมัครนักอ่านทุกคนจึงต้องผ่านการอบรมการอ่านอย่างถูกวิธีก่อน เช่น ฝึกการออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน มีจังหวะน่าฟังและเป็นธรรมชาติ รู้จักวิธีใช้เสียงสะท้อนความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำให้ปรากฏขึ้นในความรู้สึกของผู้ฟัง
เสาวลักษณ์ เกาเต๊ะ หนึ่งในอาสาสมัครนักอ่าน ซึ่งพาลูกสาวชื่อน้องปอนด์ มาเป็นอาสาสมัครนักอ่านด้วยบอกว่า กิจกรรมนี้นอกจากจะฝึกให้ลูกสาวมีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นแล้วยังช่วยฝึกฝนทักษะการอ่านและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้น้องปอนด์ด้วย
อุทยานการเรียนรู้หรือ TK Park และมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการรับสมัครและฝึกทักษะการอ่านให้นักอ่านหัวใจอาสาบอกว่า การอ่านนั้นนอกจากจะมีความสำคัญต่อตัวผู้อ่านเองแล้วยังก่อประโยชน์ให้ผู้อื่นไปด้วย
อาสาสมัครนักอ่านประจำห้องสมุดคนตาบอดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เธอได้ประโยชน์จากการเป็นอาสาสมัครนักอ่านมากเพราะหนังสือที่อาสาสมัครอ่าน โดยมากเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้และไม่สนใจมาก่อน เพราะปกติคนเราจะแสวงหาความรู้เฉพาะเรื่องที่ตัวเองสนใจ การเป็นอาสมัครนักอ่านจึงทำให้ทั้งคนอ่านและคนที่ฟังได้ความรู้กว้างขวางไปพร้อมๆ กัน
กิจกรรมรวมพลังนักอ่านอาสาในงานวันหนังสือเด็กแห่งชาติปี 2550 ได้จุดประกายให้หลายหน่วยงานหันมาสนใจอาสาสมัครนักอ่านมากขึ้น เช่น กระทรวงศึกษาธิการมีแนวคิดว่าในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน แทนที่นักเรียนนักศึกษาจะไปฝึกงานตามองค์กรต่างๆ ซึ่งมักใช้ให้เด็กทำงานที่ไม่เสริมทักษะ แถมด้วยปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงฯ จะชวนเด็กเหล่านี้มาป็นอาสาสมัครรักการอ่านเพื่อช่วยส่งเสริมการอ่านในชุมชนหรือช่วยสอนการอ่านให้ผู้ไม่รู้หนังสือ โดยมีค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้อาสาสมัครด้วย
ภาพจาก:http://tkpark.or.th