Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

วัฒนธรรมส่งเสิมการอ่าน : เมื่อโทรทัศน์พูดเรื่องหนังสือ

       ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สื่อที่มีอิทธิพลและเข้าถึงแทบทุกครัวเรือนก็คือ โทรทัศน์  นอกจากความบันเทิง สาระความรู้แล้ว เรายังสามารถใช้โทรทัศน์เพื่อการรณรงค์ด้านต่าง ๆ  รวมทั้งการส่งเสริมการอ่านด้วย  ในต่างประเทศมีการทำเรื่องนี้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน  ไม่ว่าจะเป็นรายการเด็กหรือผู้ใหญ่
       รายการโทรทัศน์สำหรับเด็กเกี่ยวกับหนังสือที่มีชื่อเสียง อาทิ Bookplace ของออสเตรเลีย หรือ Reading Rainbow  ของอเมริกา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการหลังที่ผลิตอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 23 ปี จนกระทั่งเปลี่ยนเจ้าของทุนจนเลิกผลิตไปเมื่อไม่นานมานี้  รีดดี้งเรนโบว์ ได้รับรางวัลโทรทัศน์เพื่อการศึกษา  รางวัลพีบอดี้อะวอร์ด รวมทั้งรางวัลเอ็มมี่อะวอร์ด  สิ่งที่แตกต่างจากรายการเด็กในบ้านเราคือ ไม่ได้มีเพียงผู้ใหญ่มานั่งเล่านิทานให้เด็กฟัง  มีตุ๊กตุ่นตุ๊กตา หรือว่าหุ่นมาเล่นละครหรือเล่านิทานเท่านั้น  แต่ละตอนจะมีการกำหนดธีมจากหนังสือนิทานหรือวรรณกรรมเด็กที่เลือกมาเล่มหนึ่ง  ช่วงแรกเป็นการอ่านหนังสือเล่มนั้นโดยบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดาราหรือคนดังสาขาต่างๆ ที่ได้รับเชิญมา  จากนั้นเป็นช่วงพิธีกรออกไปพบผู้ชมตามสถานที่ต่างๆ และตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับธีม หรือหนังสือที่เลือกมาในวันนั้น  ส่วนช่วงสุดท้ายเป็นการแนะนำหนังสือสำหรับเด็ก ว่าครั้งต่อไปที่เข้าห้องสมุด พวกเขาน่าจะลองอ่านเรื่องอะไร
       รายการสำหรับผู้ใหญ่เช่น The Book Channel ของอังกฤษ  เป็นรายการที่เชิญนักเขียนดัง ๆ นักเขียนขายดีหรือที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนั้นมาสัมภาษณ์ จากนั้นเขาหรือเธอจะอ่านหนังสือหรือผลงานเล่มเด่นๆ ของตนให้ฟัง สลับกับการออกนอกสถานที่ พิธีกรไปตามงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับหนังสือ  เช่น งานบุ๊คเฟสติวัล หรือบุ๊คแฟร์  แล้วสัมภาษณ์ผู้จัดงานเป็นต้น 
       น่าสังเกตว่าบ้านเรายังไม่มีรายการแบบนี้  นอกจากช่วงสั้น ๆ ของข่าวศิลปวัฒนธรรมบางช่อง หรือแทรกอยู่เป็นครั้งคราวในบางรายการ  แม้ว่าการดูโทรทัศน์จะต่างจากการอ่านหนังสือ แต่ก็สามารสร้างสีสันความสนใจให้กับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่เคยอ่านหรือกำลังอ่านหนังสือเล่มนั้นอยู่  และยังทำให้เห็นภาพความเป็นไปในแวดวงหนังสือ ทั้งเรื่องงานเทศกาลหนังสือ หรือสัปดาห์หนังสือในบ้านเรา เรื่องของผู้พิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย ได้ความรู้และทราบเคลื่อนไหวใหม่ๆ เกี่ยวกับหนังสือหรือนักเขียน
       เราสามารถเรียนรู้จากรายการที่ได้รับความนิยมเหล่านี้  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเนื้อหา เทคนิค วิธีการ โดยเฉพาะรายการเด็ก ซึ่งในส่วนของการ์ตูนแอนิเมชันนั้นเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการ สามารถดึงดูดความสนใจจากเด็ก ๆได้ตั้งแต่ต้นรายการ  ส่วนบรรยากาศในห้องส่งของบุ๊คแชนเนลนั้นก็เหมือนนั่งคุยกันในห้องสมุด  ผ่อนคลาย เป็นกันเอง พิธีกรมีความรู้ความเข้าใจในหนังสือ คำถามสำหรับนักเขียนถูกตระเตรียมมาอย่างดี  วิธีพูดและดำเนินรายการของพิธีกรสร้างอารมณ์ใกล้ชิดแบบคอเดียวกันกับคนอ่าน (ผู้ชม)  ไม่ใช่สารคดีความรู้ที่แข็งกระด้าง และมีระยะห่างกับผู้ชม