วัฒนธรรมส่งเสริมการอ่าน : เทพนิยาย วรรณกรรมอมตะตลอดกาล
มีผู้หญิงคนหนึ่งถามไอสไตล์ว่า ทำอย่างไรลูกชายของเธอจึงจะฉลาดขึ้น เขาตอบว่า ‘อ่านเทพนิยายให้แกฟัง’ เธอเข้าใจว่าไอสไตล์พูดเล่น จึงถามต่อว่า ‘แล้วไงล่ะ’ ไอสไตล์ตอบ ‘ก็อ่านเทพนิยายเรื่องต่อไป’
เทพนิยาย ตำนาน หรือนิทานปรัมปรา บรรจุเรื่องราวของผู้คนในโลกจินตนาการ พ่อมดแม่มด เจ้าหญิง เจ้าชาย นางฟ้า ต้นไม้หรือสัตว์พูดได้นั้นมีอยู่ทุกชาติ เล่าสู่กันปากต่อปาก เมื่อเริ่มมีการพิมพ์ หนังสือเทพนิยายก็ได้กลายมาเป็นวรรณกรรมอมตะ ขายดิบขายดีจนทุกวันนี้
ปกติแล้วเทพนิยายมักรวมหลายเรื่องไว้ในเล่มเดียว มีภาพประกอบไม่มาก เนื้อเรื่องหลากหลาย ทั้งโลดโผน ตื่นเต้น เศร้า น่ากลัว หรือเหนือความคาดหมาย ด้วยความที่ไม่ค่อยมีภาพ หากแต่นำความสนใจผู้อ่านด้วยเนื้อเรื่องนี้เอง เด็ก ๆ จึงสามารถวาดภาพได้ตามอำเภอใจ ก่อให้เกิดจินตนาการอันกว้างไกล ยังประโยชน์แก่พวกเขา แบบที่ไอสไตล์ว่าไว้ ‘จินตนาการสำคัญกว่าความรู้’
ถึงแม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายคนคงยังจดจำได้ถึงความบันเทิงหลากรสแห่งเทพนิยาย ดินแดนในฝัน การต่อสู้เผชิญโชคชะตาของมนุษย์ตัวน้อย เรื่องเจ้าชายผู้ถูกสาป พรสามประการของนางฟ้า หรือพรมวิเศษเหาะได้ เทพนิยายนั้นก็เช่นเดียวกับนวนิยาย กล่าวคือมีโครงเรื่องพาตัวละครดำเนินไป ผจญกับอุปสรรคต่างๆ จนกระทั่งคลี่คลายลงเอยด้วยความสุข เรื่องราวในเทพนิยายนั้นแม้ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแต่ก็สอนผู้อ่านถึงกฎแห่งการมีชีวิต เช่น ความกล้าหาญอดทน ผลของความซื่อสัตย์ การยืนหยัดที่จะสู้กับสิ่งเลวร้าย การใช้สติปัญญาไตร่ตรองคิดหาหนทาง และการเมตตาต่อผู้ที่ถูกทำร้าย มีทั้งความสง่างามของความรัก ความเศร้า หรือการถูกทอดทิ้ง รวมเป็นประสบการณ์ทางอารมณ์อันเข้มข้น ทำให้สารที่ได้ฝังลึกตรึงตราลงไปในหัวใจคนอ่าน ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้ที่ส่งผลที่สุด ยิ่งกว่าการสั่งสอนหรือท่องจำ
นอกเหนือจากที่นักวิชาการบอกเราว่า เทพนิยายมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสังคม ควรให้เด็กอ่านบ่อยๆ แล้ว ยังมีการใช้เทพนิยายและนิทานในโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของยุวอาชญากรในต่างประเทศอีกด้วย เด็กเหล่านั้น ซึ่งส่วนมากไม่เคยฟังนิทาน ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องสาเหตุและผลลัพธ์จากการกระทำของตน ผ่านเทพนิยายที่เจ้าหน้าที่อ่านให้พวกเขาฟัง
เทพนิยายที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำนั้น ควรเป็นฉบับดั้งเดิม เช่น ซินเดอเรลล่า ฉบับเก่าที่พี่เลี้ยงคนหนึ่งยอมตัดนิ้วเท้าเพื่อให้สามารถสวมรองเท้าแก้วได้ จะเป็นประโยชน์มากกว่าฉบับที่ตัดทอน ดัดแปลงใหม่สะอาดใส น่ารัก พวกเขาให้เหตุผลว่า แม้ฉบับโบราณอาจจะโหดร้าย นองเลือด แต่เด็กจะรับฟังโดยระลึกรู้ว่านั่นคือเรื่องราวของผู้อื่น เหมือนกับเวลาเราอ่านนิยาย เขาอาจจะใจเต้น หวาดหวั่น แต่ก็รู้สึกว่าปลอดภัยเพราะมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย แล้วเมื่อกลับออกมาสู่โลกปกติ เขาก็จะได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งผ่านประสบการณ์อกสั่นขวัญแขวนนั้น และสามารถเทียบเคียงบทเรียนจากเทพนิยายกับโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งมีทั้งสองด้าน
ภาพจาก : http://my.dek-d.com/