Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

รีดเดอร์ส เธียเตอร์ ละครส่งเสริมการอ่าน

  

  

“ละครสร้างนักอ่าน” คือชื่อของหนังสือเล่มหนึ่งที่แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) ซึ่งเป็นองค์กร   ที่ดำเนินภายใต้มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดพิมพ์ขึ้น ได้รับความสนใจจากบุคลากรส่งเสริมการอ่านไม่ว่าจะเป็นครู พี่เลี้ยง  อาสาสมัครรักการอ่าน เจ้าหน้าที่ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ  ด้วยว่าวิธีการที่เรียกว่า รีดเดอร์ส เธียเตอร์จะเป็นอีกกลวิธีหนึ่งที่ก่อเกิดผลดีต่อการสร้างเสริมวัฒนธรรมรักการอ่าน
       ได้เช่นกัน) เป็นรูปแบบของการแสดงละครแบบหนึ่งที่รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เข้ามาอ่านหนังสือหรือบท (script) ด้วยการอ่านออกเสียง 
      รีดเดอร์ส เธียเตอร์ ไม่จำเป็นต้องมีฉากหรือเครื่องแต่งกาย ไม่ต้องใช้การแสดงเต็มรูปแบบ และไม่ต้องท่องจำบท  ผู้อ่านเพียงแต่ใช้ความรู้สึก น้ำเสียงและอารมณ์ และนำเสนอตัวละครด้วยการใช้เสียง การแสดงสีหน้าและท่าทางง่ายๆ  ตลอดช่วงที่ใช้กระบวนการรีดเดอร์ส เธียเตอร์อยู่  ผู้อ่านจะอยู่กลางเวทีและมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การอ่าน กล่าวคือ  ผู้อ่านคือดารานักแสดง นั่นเอง
      รีดเดอร์ส เธียเตอร์ เปลี่ยนห้องเรียนหรือสถานที่จัดกิจกรรมให้เป็นเวทีการแสดงที่น่าหลงใหล  ละครของนักอ่านประเภทนี้ต่างจากการละครโดยทั่วไป เพราะไม่ต้องจัดหาหรือจัดสร้างภาพของเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบนเวที  แต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวอย่างง่ายๆ มากกว่าการแสดงออกมาจริง  เหตุการณ์ต่างๆ นั้นไม่ใช่การแสดงออกมาให้เห็นอย่างสมจริง หากแต่เป็นการทำให้เกิดภาพขึ้นในความนึกคิด   
       รีดเดอร์ส เธียเตอร์  เป็นละครแห่งการจินตนาการ เพราะผู้ชมจะร่วมจินตนาการไปกับนักแสดงในการสร้างเรื่องราวให้มีชีวิตขึ้นในโรงละครแห่งจินตนาการ
       สาระสำคัญที่มีอยู่ในคำว่า “รีดเดอร์ส” หรือ “นักอ่าน” ชี้ให้เราเห็นชัดว่าเป็นการเน้นที่ตัวหนังสือ ตัวหนังสือคือแนวคิดที่สำคัญที่สุดในหลักการของรีดเดอร์ส เธียเตอร์  นี่เป็นเหตุผลและบทบาทหน้าที่สำหรับการแสดงแบบนี้  จุดมุ่งหมายของรีดเดอร์ส เธียเตอร์  คือเพื่อแสดงงานเขียนในรูปแบบที่ดึงดูดความสนใจของผู้ฟังให้พุ่งตรงไปที่งานของผู้แต่ง  ตัวหนังสือหรือตัวอักษรที่ถูกเลือกสำหรับการแสดงในเบื้องต้นเป็นงานวรรณกรรมที่ไม่ใช่เป็นการละคร
      กล่าวได้ว่า รีดเดอร์ส เธียเตอร์ เป็น “สื่อ” (medium) ที่มีผู้แปลความหมายโดยการอ่านหลายคน โดยผ่านการอ่านออกเสียง เพื่อให้ผู้ฟังได้รับรู้ประสบการณ์จากงานวรรณกรรม โดยนักแสดงหรือผู้อ่านใช้ความสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักได้ว่า การอ่านเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นำมาทดลองได้ โดยพวกเขาสามารถลองอ่านถ้อยคำในหนังสือด้วยวิธีที่แตกต่างกันเพื่อให้มีความหมายที่แตกต่างได้  การใช้ความดังของเสียง ระดับเสียงสูง-ต่ำ การเน้นเสียงและจังหวะในการออกเสียงที่ใส่ลงไปในหนังสือหรือบทที่กำลังอ่านในการแสดงรีดเดอร์ส เธียเตอร์เป็นการทำให้ตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ไว้มีชีวิตชีวาและให้ชีวิตกับตัวละครเหล่านั้น
       การแสดงใน RT แตกต่างจากการละครแบบทั่วไปในหลายๆ ด้าน และหนึ่งในจำนวนนั้นคือ ไม่ต้องพยายามสร้างสิ่งเสมือนจริงบนเวที ในลักษณะนี้คือเป็น การนำเสนอ (presentational) มากกว่าเป็นการแสดงแบบจำลองภาพจริง (representational)  ภาพหรือสิ่งต่างๆ จะไม่มีอยู่บนเวที แต่จะมีอยู่ในใจของผู้ชม และในใจของตัวผู้อ่านเอง  ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าการแสดงจะเกิดขึ้นที่ไหน เสียงของผู้ที่ตีความจากตัวหนังสือก็จะส่งผลไปกระตุ้นให้กับผู้ฟัง  ด้วยเหตุนี้ผู้ฟังก็จะเข้าร่วมในการแสดงไปพร้อมกันกับผู้อ่านด้วย
   
       รีดเดอร์ส เธียเตอร์ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์ องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดก็คือการนำบทหรือสคริปต์ที่จะอ่านมาเปิดอ่าน แม้ผู้อ่านจะจำบทที่จะอ่านได้เป็นอย่างดีก็ตาม เพราะบทที่อ่านจะเป็นสื่อกลางทำให้คนดูนึกถึงถ้อยคำในหนังสือเล่มนั้นๆ การตกแต่งเวทีไม่จำเป็นต้องมี หรือมีก็เพียงเล็กน้อย  เนื่องจากฉากนั้นจะตั้งอยู่ในจินตนาการของผู้อ่านและผู้ชม จึงทำให้องค์ประกอบทางกายภาพไม่สำคัญเท่ากับการฟัง  โดยปกติผู้อ่านมักจะยืนถือหรือนั่งบนเก้าอี้ที่วางบทที่จะอ่าน  สำหรับเครื่องแต่งกายก็ไม่จำเป็นจะต้องลงทุนอะไรนักแสดงมักจะแต่งกายด้วยชุดเรียบๆ อาจมีสิ่งประดับพอให้เห็นว่าเป็นตัวละครตัวใดบ้างเท่านั้นเอง
      ผู้อ่านแต่ละคนจะให้ภาพของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งตัวก็ได้  อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก อาจใช้ “การเปลี่ยนเสียง” มาช่วย ให้รู้ว่าผู้อ่านคนเดียวกันได้เปลี่ยนจากตัวละครหนึ่งไปเป็นอีกตัวหนึ่งแล้ว
      ความสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้ฟัง จะช่วยให้ผู้ฟังมุ่งความสนใจไปที่ตัวหนังสือที่อยู่ในบทประพันธ์นั้น บัดนี้ผู้แสดงรีดเดอร์ เธียเตอร์ ได้เชิญชวนให้ผู้ชมอยากไปอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว

 

 

ภาพจาก : http://gotoknow.org/