รถด่วนขบวนหนังสือ
รถไฟตู้หนังสือมีอยู่จริง ที่สถานีรถไฟหนองคาย สถานีหัวหิน และสถานีบุรีรัมย์ ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้ โครงการห้องสมุดรถไฟเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ใครที่มีโอกาสไปเยือนสถานีรถไฟทั้งสามจะเจอโบกี้รถไฟที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องสมุดสุดเก๋ มีตู้หนังสือขนาดกะทัดรัดและที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างน่าสบาย
ห้องสมุดรถไฟเหล่านี้มีไว้บริการผู้โดยสารระหว่างรอขึ้นรถไฟ รวมไปถึงคนท้องถิ่นที่รักการอ่านหนังสือหรือหาที่พักผ่อนหย่อนใจ ห้องสมุดตู้รถไฟกลายเป็นสิ่งดึงดูดใจชั้นยอดให้เด็กๆ เข้ามาอ่านหนังสือ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า เด็กๆ นั้นชอบรถไฟ..กะฉึกกะฉักๆ ปู๊นๆ เป็นที่สุด
ห้องสมุดโบกี้รถไฟจึงตอบทุกโจทย์ของการส่งเสริมการอ่านหนังสือ ตั้งแต่ช่วยให้การอ่านหนังสือเกิดได้ทุกที่-ทุกเวลา แม้ในระหว่างการเดินทาง ส่งเสริมให้คนไทยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการอ่านหนังสือ ไปจนถึงการสร้างความรู้สึกอยากอ่านหนังสือด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและดึงดูดใจ
ห้องสมุดรถไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สถานีหนองคายเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2552 ห้องสมุดรถไฟสถานีหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปีเดียวกัน โดยสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นประธานในการเปิดห้องสมุดรถไฟทั้งสองแห่ง ส่วนห้องสมุดรถไฟเฉลิมพระเกียรติฯ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์นั้นเปิดโบกี้ต้อนรับนักอ่านและนักเดินทางไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน
ห้องสมุดรถไฟทั้งสามแห่งเกิดขึ้นจากการนำตู้รถไฟเก่าที่ปลดระวางแล้วมาซ่อมแซมแปลงโฉมให้สวยงาม อย่างโบกี้รถไฟที่นำมาดัดแปลงเป็นห้องสมุดรถไฟสถานีหัวหินนั้นอายุมากกว่า 50 ปีเลยทีเดียว นอกจากเคาะสนิม-ทาสี-เปลี่ยนกระจกหน้าต่างโบกี้รถไฟแล้ว เจ้าหน้าที่จะติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักอ่าน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือ มุมหนังสือและของเล่นเด็ก เป็นต้น
จำนวนโบกี้ที่นำมาตั้งเป็นห้องสมุดรถไฟนั้นมีจำนวนแตกต่างกันไป เช่น ห้องสมุดรถไฟบุรีรัมย์มีจำนวน 5 ตู้ วางเป็นรูปตัวยู (ตู้ที่ 1 บริการวารสาร นิตยสารและหนังสือพิมพ์, ตู้ที่ 2 บริการหนังสือทั่วไปและคู่มือเตรียมสอบ, ตู้ที่ 3 บริการหนังสือเด็กและเยาวชน มุมของเล่น, ตู้ที่ 4 บริการหนังสือแนะแนวอาชีพและหนังสือนวนิยาย, ตู้ที่ 5 บริการมุมวิชาการ) ห้องสมุดรถไฟแห่งนี้มีบรรณารักษ์ห้องสมุดตู้รถไฟอยู่ประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.30 น.
อันที่จริง ห้องสมุดรถไฟเกิดขึ้นในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำโครงการ “ครูตำรวจข้างถนน” ขึ้นในปี 2541 โดยขอความร่วมมือจากตำรวจให้ช่วยสอน
รถไฟขบวนนี้ นอกจากไม่คิดค่าโดยสารแล้ว ยังได้ความรู้แถมกลับบ้านเต็มกระบุง
ภาพจาก http://www.fukduk.tv