Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

“มุมหนังสือ-ห้องสมุด และการสร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อมเพื่อการสร้างเสริมวัฒนะธรรมการอ่าน ครั้งที่ 1”

  โครงการสัมมนา“มุมหนังสือ-ห้องสมุด และการสร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อมเพื่อการสร้างเสริมวัฒนะธรรมการอ่าน ครั้งที่ 1”
วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2553 เวลา 13.30 – 16.30
ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 34 สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
อาคารเอสเอ็ม ทาวเวอร์ พญาไท กรุงเทพฯ

         การประชุมโครงการสัมมนา “มุมหนังสือ – ห้องสมุด และการสร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อมเพื่อการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านครั้งที่1” เป็นการประชุมที่ได้เชิญองค์กรที่มีภารกิจด้านการให้บริการประชาชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเพื่อหาแนวทางการส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นในองค์กร และเกิดเป็นภาคีร่วมกันในการทำงานด้านการส่งเสริมการอ่าน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 6 องค์กร ประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร, บริษัท ขนส่ง จำกัด ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านในแต่ละองค์กร และข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ ดังนี้
 
 
 
1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย คุณผาณิต  เกิดโชคชัย ผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์การเรียนรู้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงการรูปแบบการส่งเสริมการอ่านในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพโดยจัดตั้ง “ห้องสมุดมารวย” ขึ้น เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไว้อย่างหลากหลาย มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการจัดการระบบห้องสมุดให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีบริการส่งหนังสือถึงพนักงานโดยตรง บุคลากรในองค์กรก็มีความสนใจในข้อมูลต่างๆ และมีการเข้ายืมหนังสือจากห้องสมุดเป็นประจำ นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสังคมกับชุมชนที่อยู่รอบตลาดหลักทรัพย์ เช่น ชุมชนคลองเตย เป็นต้น โดยมีการจัด “ห้องสมุดเพลิน” ซึ่งเป็นห้องสมุดที่มีกิจกรรมต่างๆ สำหรับเด็กและเยาวชนให้บริการแก่ชุมชนดังกล่าว ซึ่งมีครูอาสาสมัครจากโรงเรียนคลองเตยเข้ามาช่วยในการจัดกิจกรรม ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สามารถดึงเด็กและเยาชนจากชุมชนรอบด้านให้เข้าห้องสมุดได้เป็นจำนวนมาก
 
 
คุณผาณิตยังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจในเรื่อง “ห้องสมุดจะมีชีวิต ต้องมีกิจกรรมที่หลากหลาย” ดังนั้นห้องสมุดมารวยจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นอย่างมากมาย อาทิ กิจกรรมให้ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์พูดคุยถึงหนังสือในดวงใจ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจแก่บุคลากรในการอ่านหนังสือ จัดกิจกรรมนักอ่านยอดเยี่ยมสำหรับบุคลากรที่มียอดการยืมหนังสือสูงสุด เป็นต้น นอกจากนี้ ห้องสมุดมารวยยังได้ขยายกิจกรรมที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านโดยมีการเปิดมุม “SET Conner” ตามสถาบันอุดมศึกษาต่างๆกว่า 180 แห่ง โดยเป็นมุมหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์รูปแบบต่างๆ ขณะนี้ห้องสมุดมารวยได้รุกเข้าหาคนอ่านโดยเปิดสาขาที่ ศูนย์การค้าเอสพานาร์ด สาขารัชดาภิเษก ส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนซึ่งเป็นภารกิจหลักเป็นประจำ
 
 

2. การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยคุณมณฑกาญจน์  ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงประเด็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของการรถไฟไว้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการจัดทำห้องสมุดโดยการนำเอาตู้รถไฟมาตกแต่งให้เกิดความสวยงาม มีบรรยากาศที่เหมาะแก่การอ่านหนังสือ ไว้ตามสถานีชุมทางรถไฟที่สำคัญต่างๆ ตามภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟกันตัง จังหวัดตรัง ห้องสมุดรถไฟที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ หนองคาย เป็นต้น ซึ่งห้องสมุดในแต่ละที่ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างสูง มียอดผู้เข้าใช้บริการสูงมากในแต่ละเดือน โดยทั้งประเทศในปัจจุบันมีห้องสมุดของการรถไฟแห่งประเทศไทยถึง 9 แห่ง และประเด็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะคือห้องสมุดรถไฟที่จังหวัดหนองคายนั้นได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด จากนั้นมาจึงมีนโยบายจากการรถไฟแห่งประเทศไทยในการที่จะขยายห้องสมุดรถไฟให้ได้อย่างน้อยปีละ 10 แห่ง โดยความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) นอกจากการจัดการส่งเสริมการอ่านเพื่อชุมชนแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังริเริ่มโครงการที่จะจัดมุมหนังสือแก่ผู้ใช้บริการรถไฟไว้บนรถไฟโดยสารตามเส้นทางต่างๆทั่วประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งนับเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่จะจัดให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟ
 
 
3. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยคุณจุไรรัตน์  สินบรรจง บรรณารักษ์ประจำห้องสมุด และคุณวนิดา  สิริมังคลกิตติ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล ได้กล่าวประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านในองค์กรไว้ว่า บริษัทไปรษณีย์ไทยนั้นมีห้องสมุดให้บริการโดยในอดีตห้องสมุดจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมการอ่านและสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร หลังจากนั้นจึงได้มีการพิจารณาถึงบรรยากาศแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมการอ่าน จึงได้ปรับปรุงอย่างเหมาะสม ทำให้มีผู้สนใจยืมหนังสือจากห้องสมุดมากขึ้นขณะนี้ได้มีการนำหนังสือเคลื่อนที่ให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ด้วยอาทิตย์ละ 2 วัน และอาจจะขยับเปิดพื้นที่ให้คนภายนอกองค์กรเข้าใช้ได้ด้วย   
 
 
4. สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โดยคุณปราณี  เลาหพิบูลย์กุล ฝ่ายวิชาการ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของสถานพยาบาลในสังกัดของสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครไว้ว่า ปกติแล้วทุกโรงพยาบาลในสังกัด กรุงเทพฯ จะมีห้องสมุดประจำอยู่แล้ว แต่ห้องสมุดดังกล่าวเป็นเหมือนห้องสมุดที่ว่างเปล่า ไม่ค่อยมีผู้ใช้บริการเท่าที่ควร เพราะห้องสมุดของโรงพยาบาลจะมีแต่หนังสือวิชาการเฉพาะทางทางการแพทย์เป็นส่วนมาก ดังนั้น ทางโรงพยาบาลต่างๆในสังกัด จึงมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่น่าสนใจขึ้น เช่น โรงพยาบาลวิชระพยาบาล และโรงพยาบาลกลาง มีโครงการ “เสียงตามสาย” โดยเป็นการอ่านหนังสือผ่านเสียงตามสายในโรงพยาบาลบริการแก่ผู้ป่วย หรือบุคลากรในโรงพยาบาล และริเริ่มการจัดมุมหนังสือตามส่วนการรักษาเฉพาะทางต่างๆ โดยจะบริการหนังสือเกี่ยวกับเกร็ดความรู้ การดูแลตัวเองและ การรักษาโรคต่างๆ เป็นต้น
 
 
5. บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยคุณสุทธิพงษ์  ธีรไวทยะ เจ้าหน้าที่ห้องสมุด การท่าอากาศยานไทย กล่าวว่าปัจจุบันห้องสมุดในองค์กรเริ่มมีการปรับปรุงใหม่ แต่ยังเป็นไปเพื่อให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ ในส่วนข้อเสนอแนะของที่ประชุมเรื่องการจัดบริการมุมหนังสือแก่ผู้มาใช้บริการในสนามบินนั้น จะได้นำเสนอต่อผู้บริหารต่อไป
6. บริษัท ขนส่ง จำกัด โดย คุณภรณ์ภัสสรณ์  นาคเอี่ยม และคุณจุฑามาศ  แย้มกลิ่น เจ้าหน้าที่จากกองพัฒนาบุคลากร บริษัท ขนส่ง จำกัด ได้สรุปกิจกรรมที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านในองค์กร ดังนี้ ปัจจุบันการให้บริการห้องสมุดแก่ประชาชนที่มาใช้บริการที่สถานีขนส่งเป็นไปอย่างไม่กว้างขวางเท่าที่ควร เพราะการบริการที่ผ่านมาประสบปัญหาหนังสือหาย และยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจนเท่าที่ควร งานริเริ่มใหม่ เช่น การส่งเสริมให้มีผู้ค้าหนังสือเข้ามาขายหนังสือในบริเวณสถานีขนส่งที่หมอชิตประจำสัปดาห์ และในอนาคตคาดว่าจะมีบริการมุมหนังสือขึ้นตามสถานีขนส่งต่างๆ เป็นต้น
 
 
ข้อเสนอแนะแลกเปลี่ยนจากที่ประชุม     
 1. นำจุดแข็งขององค์กรด้านระบบการจัดการการขนส่ง (Logistic) เข้ามาส่งเสริมการอ่าน ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, การท่าอากาศยานไทย จำกัด, การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท ขนส่ง จำกัด เช่น บริการส่งคืนหนังสือที่ไหนก็ได้ บริการจัดส่งหนังสือต่างๆ เป็นต้น

 2. ควรมีการสอดแทรกกิจกรรมการส่งเสริมการอ่าน ในกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานจัดขึ้น เช่น บริษัทไปรษณีย์ไทย อาจใช้การประทับตราข้อความรณรงค์ส่งเสริมการอ่านหน้าซองจดหมายต่างๆ

 3. ควรมีการเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่มีสาขาการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมในประเด็นการส่งเสริมการอ่านครั้งต่อๆ ไป เช่น การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้แทนจากสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครได้ เสนอหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครในระดับนโยบายที่สนใจในเรื่องการส่งเสริมการอ่านเข้าร่วมประชุมด้วย ได้แก่ สำนักอนามัย สำนักวัฒนธรรม สำนักพัฒนาชุมชน และสำนักการศึกษา ที่รับผิดชอบดูแลโรงเรียนเตรียมอนุบาล กรุงเทพมหานคร ฯลฯ

 4. นอกจากองค์กรให้ความสำคัญแก่งานบริการห้องสมุด หนังสือแก่เจ้าหน้าที่ในองค์กรแล้ว สามารถเชิญชวนให้คนในองค์กรมีส่วนร่วมในการบริจาคหนังสือให้องค์กร หรือทำกิจกรรมจิตอาสาแก่ชุมชนรอบองค์กรได้ด้วย
 
 
           ท้ายสุดของการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ องค์กรที่มาร่วมพูดคุยมองว่า ตลาดหลักทรัพย์มีจุดแข็งเรื่องการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการอ่าน และมีหนังสือชุดความรู้ และยังสามารถส่งเสริมกันและกันได้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสานต่อความช่วยเหลือและร่วมขับเคลื่อน วาระการอ่าน วาระของทุกองค์กร และทุกคน ต่อไป