ผิดที่ – วินทร์ เลียววาริณ

สมัยที่ผมยังเป็นละอ่อนเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีวิชาเลือกวิชาหนึ่งคือบัญชี ต้องเรียนพร้อมกับนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ทั้งคณะมีนิสิตสถาปัตย์ฯเพียงสามคนลงทะเบียนวิชานี้ ผ่านไปครบเทอมก็ถึงวันสอบซึ่งจัดขึ้นที่คณะพาณิชยศาสตร์ฯ เราทั้งสามก็เข้าห้องสอบตรงเวลา หลังจากทำข้อสอบได้ยี่สิบนาที เราสามคนก็หันมามองหน้ากันตาปริบๆ
เราเข้าห้องสอบผิดห้อง!
ออกจากห้องสอบนั้น เราก็ไปหาห้องสอบที่ถูกต้อง แล้วเริ่มทำข้อสอบใหม่ ช้ากว่าคนอื่นราวครึ่งชั่วโมง แต่ก็สอบผ่านวิชานั้นมาได้ด้วยดี
มองโลกตามความเป็นจริงคือ ความรู้สึกของเราช้าไปหน่อย กินเวลาตั้งยี่สิบนาทีกว่าจะรู้ว่าเข้าห้องสอบผิดห้อง!
แต่มองโลกในแง่ดีคือ ทำข้อสอบวิชาที่ไม่ได้เรียนได้นานถึงยี่สิบนาทีได้ ก็ถือว่าไม่เลว!
เหตุการณ์เล็กๆ ครั้งนั้นเป็นบทเรียนสอนเราว่า คนเราไม่ว่าเรียนสูงแค่ไหน ก็อาจตายน้ำตื้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มันยังสอนเราว่า ก่อนไปสถานที่นัดหมายที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยไป ควรทำการบ้านก่อน
อย่างไรก็ตาม การไปผิดที่อาจไม่แย่เท่าการไม่รู้ว่าตนเองอยู่ผิดที่! ทั่วโลกมีคนเป็นล้านๆ คนที่ทำงานจนจะใกล้เกษียณรอมร่อ เพิ่งรู้ว่าทำงานผิดที่
ทว่าสิ่งที่แย่กว่าการอยู่ผิดที่คือรู้ว่าอยู่ผิดที่ แต่ยังทนอยู่ต่อไป! เช่นกัน มีคนเป็นล้านๆ คนที่เข้าข่ายนี้
คนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ผิดที่เพราะความจำเป็นต่างๆ นานา ในทางอาชีพการงาน เหตุผลหลักคือไม่มีความรู้พอที่จะไปหาที่ใหม่ หรือมีอายุเป็นข้อจำกัด ฯลฯ
ในทางชีวิต การอยู่ผิดที่คือการติดกับดักแห่งชีวิต อยากหนีไปอยู่ที่ที่ถูกกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ มันคือพันธนาการไร้รูป ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นในอาชีพการงานหรือในชีวิต ไม่ว่าเหตุผลใด อาการของการอยู่ผิดที่ก็เหมือนปลาน้ำจืดถูกโยนไปอยู่ในน้ำกร่อย ทำอย่างไรก็ไม่สนุก ไม่มีความสุข มันผิดที่ผิดทางผิดใจผิดอารมณ์ไปหมด วันๆ ถอนใจหรือมองแต่นาฬิกา หรือทั้งสองอย่าง!
อาการของผิดที่คล้ายๆ การเบื่อที่ แต่ไม่เหมือนกัน
‘เบื่อที่’ เกิดขึ้นเพราะไม่ชอบสถานที่ทำงาน ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน ไม่ชอบเจ้านาย เปลี่ยนที่ทำงานก็หาย
‘ผิดที่’ ต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนสายอาชีพสถานเดียว เช่นชอบเตะฟุตบอล แต่ให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ ชีวิตก็คงไม่สนุกแน่
นักเขียนการ์ตูน ชัย ราชวัตร เรียนจบสายบัญชี แต่ชอบการ์ตูนมากกว่า ในที่สุดก็เดินตามหัวใจ กลายเป็นศิลปินสร้างผลงานดีๆ มากมาย
นักเขียน ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ก็เรียนจบทางบัญชี เรียนมาทั้งที่ไม่ชอบ แต่ก็เรียนจนจบ สิ่งที่เขาอยากทำคือวงการหนังสือ จนถึงวันหนึ่งเขาก็คิดตก มุดออกจากกรงนักบัญชีออกมาทำสิ่งที่เขาฝันอยากเป็น
มองรอบตัว ผมเห็นคนที่เลือกหลุดออกจากอาการผิดที่ไม่น้อย บางคนเป็นหมอแล้วหันทิศมาเป็นนักเขียน บางคนจบสถาปัตย์ฯไปเป็นนักแต่งเพลง จบกฎหมายไปทำสวน จบออกแบบเป็นนักดนตรี บางคนทำงานเลขานุการ แล้วมาเรียนเป็นครู บางคนทำงานในองค์กรนาน แล้วหักฉากมาทำการครัว ฯลฯ
คนใกล้ตัวผมหลายคนเปลี่ยนทิศเดินชีวิตเมื่ออายุเกินเลข 4 เลข 5 ไปแล้ว บางคนเกษียณแล้ว เพิ่งเริ่มมาเรียนสายใหม่
วิเคราะห์ตัวเองเสมอให้ออกว่าเบื่อที่หรือผิดที่ แล้วแก้ไขให้ถูกจุด
ชีวิตไม่จำเป็นต้องจมดักดานกับจุดเดิมที่เดิมหลุมเดิมไปจนตาย เปลี่ยนใจเมื่อไร ก็เปลี่ยนทิศได้เสมอ ไม่ต้องทำงานสายเดิมต่อไปจนถึงวันตายเพียงเพราะเรียนมาสายใดสายหนึ่ง หรือเพราะความเคยชิน เพราะพ่อสั่งหรือแม่ขอ
การทู่ซี้ทำสิ่งที่ไม่ชอบ ย่อมได้งานไม่ดี และท้ายที่สุด ก็ส่งงานไม่ดีออกไปในสังคม บางกรณีก็สร้างอันตราย ไม่ชอบเป็นครู แต่ดันทุรังสอนต่อ ก็ไม่มีทางสร้างเด็กที่มีคุณภาพได้
ไม่ชอบเป็นหมอ แต่เรียนหมอเพราะคะแนนสูงมาตลอด ใครๆ ก็ยุให้เรียนหมอ ทำงานแบบไม่ชอบอย่างนี้ วันหนึ่งก็อาจลืมกรรไกรในท้องคนไข้สักราย
‘เบื่อที่’ เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่ารักสิ่งที่ทำสักแค่ไหน วันดีคืนดี ในบางอารมณ์ ก็เบื่อได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่นานก็หายจากความเบื่อ เพราะความชอบมีมากกว่าความเบื่อ
แต่ผิดที่ไม่สามารถหายได้หากไม่แก้ที่ต้นเหตุ
คำถามว่า “แล้วจะทำอย่างไร?” ไม่มีคำตอบตราบใดที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
ต้องการที่จะรู้สึกปลอดภัยแต่ไม่มีความสุข หรือต้องการที่จะมีความสุขโดยแลกกับความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย?
หากมีทัศนคติว่า ความปลอดภัยสำคัญกว่าอย่างอื่น การไม่มีความสุขก็เป็นราคาของมัน ทำใจยอมรับ แล้วก็ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสุขพอประมาณ
หากมีทัศนคติว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องการติดคุกทางใจ ความเสี่ยงก็คือราคาของมัน ก็ทำใจว่า บางครั้งอาจสุขมาก และบางครั้งก็อาจทุกข์มากเพราะ
เราไม่อาจดูหมิ่นคนที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดูเหมือนจะดีกว่า (ในมุมมองของเรา) เพราะคนไม่เหมือนกัน บางคนกล้าเสี่ยงมากกว่าบางคน นี่ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก มันเป็นเพียงวิธีเลือกของแต่ละคนเท่านั้น
บางคนเมื่อรู้ว่าผิด ก็ถอยออกมาเสีย บางคนคิดไกลกว่านั้นด้วยสัญชาตญาณของความปลอดภัยและความรอบคอบ
ก่อนที่จะตัดสินใจ ถามตัวเองว่า หากผ่านไปสักห้าปี สิบปี เราจะเสียใจไหมที่ไม่เปลี่ยน?
ถ้าหากคิดว่าเสียใจแน่ ก็ตัดสินใจเปลี่ยน แล้วค่อยมาวางแผนว่าจะออกจากกรงให้อยู่รอดนอกกรงได้อย่างไรโดยเสี่ยงน้อยที่สุด และมีโอกาสสำเร็จสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดตัวเองด้วยการเรียนใหม่ ฝึกฝน การหา ‘เครื่องมือ’ ใหม่ๆ ในการแผ้วถางทาง
มองโลกในแง่ดีก็คือ เมื่อออกจากกรงแล้ว ก็จะไม่ต้องเสียพลังงานในการก่นด่าตัวเองว่าทำไมไม่กล้าออกไป
วินทร์ เลียววาริณ
www.winbookclub.com
27 สิงหาคม 2554
คมคำคนคม
You’ve achieved success in your field when you don’t know whether what you’re doing is work or play.
Warren Beatty
คุณประสบความสำเร็จในสายงานของคุณเมื่อคุณไม่รู้ว่าที่คุณกำลังทำเป็นงานหรือเรื่องเล่น
Most advances in science come when a person for one reason or another is forced to change fields.
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์สำคัญส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ถูกบังคับให้เปลี่ยนสายงาน
Peter Borden
ที่มา http://www.winbookclub.com/article.php