บทสรุป “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ” 13 วันฟันไป 400 ล้านบาท!!!

มาถึงวันนี้…หนังสือคงกลับโกดังกันไปเรียบร้อยหมดแล้ว สำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 9
ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยจัดขึ้นมา นับนิ้วแล้วรวมทั้งสิ้น 13 วันเต็มๆ
ต้องขอชมเชยว่า ทีมงานสมาคมฯทำงานได้ว่อง…ดีแท้ เพราะว่า เช้าวันรุ่งขึ้นก็มีรายงานสรุปภาพรวมจากทางสมาคมฯส่งมาให้ผมอ่านกันพอชื่นใจถึงบ้านเลยครับ- อ่านแล้วก็ปลื้ม…ไม่ใช่ว่า ปลื้มที่สมาคมฯส่งรายงานให้ผมอ่านหรอกนะครับ….
ผมปลื้มที่ทางสมาคมฯแจ้งมาว่า ตลอดระยะเวลา 13 วันจัดงาน มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5% จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งก่อน เพราะมีพี่น้องประชาชนนักอ่านทั้งหลายเข้ามาชมงานและเดินเลือกซื้อหาหนังสือกันอย่างคึกคักและหนาแน่นตั้งแต่วันแรกซึ่งความจริงแล้วมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น…เหตุเพราะปีนี้สภาวการณ์ของบ้านเมือง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯไม่น่าปวดหัวเหมือนเดือนมีนาคม-เมษายนปีที่แล้ว
แต่ปีนี้บรรยากาศในกรุงเทพฯสบายๆ ครับ พี่แม่ผู้ปกครองทั้งหลายเลยอนุญาตให้ชวนลูกเพื่อนฝูงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาเดินเล่นเดินซื้อหาหนังสือเล่มโปรดไปนอนอ่านในช่วงปิดเทอม แม้ว่าในต่างจังหวัดจะมีปัญหาภัยธรรมชาติ แต่ในเมืองกรุงปลอดภัย จึงกลายเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นของคนมาเดินงานหนังสือปีนี้
ถามว่า ส่วนใหญ่จะเข้ามาเลือกซื้อหนังสืออะไรกัน ข้อมูลที่ได้ก็คือว่า มาเลือกซื้อหาหนังสือใหม่ เพราะแทบทุกสำนักพิมพ์ตอนนี้ใช้กลยุทธ์ออกผลงานใหม่ในงานสัปดาห์หนังสือให้ส่วนลด 10-20 % กำไรยังได้เนื้อๆ เพราะสำนักพิมพ์ขายตรงไม่ต้องไปผ่านระบบสายส่งที่คิดค่าฝากขาย 40% แม้ว่าจะมีเวลาแค่ 13 วันแต่ก็ฟันกำไรไปพอสมควร
สำหรับกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากเท่าที่อ่านในรายงานของทางสมาคมฯ ได้แก่ หนังสือการ์ตูนความรู้ ,นวนิยาย และวรรณกรรมเยาวชน รวมถึงหมวดประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเช่นกัน
ครับ- ข้อมูลนี้ก็เป็นการตอกย้ำให้คนทำหนังสือทั้งหลายมั่นใจมากขึ้นว่า หนังสือดียังเป็นที่ต้องการเพราะเป็นเครื่องให้ความบันเทิงและได้สาระความรู้ไม่ใช่ว่า เด็กไทยเราจะบ้าเห่อแต่หนังสือละครหลังข่าว,หนังสือรักหวานแหว๋วแต๋วจ๋าแบบเกาหลีฯลฯ
และแม้ว่าจะเกิดวิกฤติสถานการณ์น้ำท่วมหนักทางภาคใต้และเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ รวมไปถึงก่อนงานจะเริ่มก็เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มญี่ปุ่น แต่สำหรับยอดขายในงานสัปดาห์หนังสือปีนี้กลับได้ตามที่ตั้งเป้าหมายที่ทางสมาคมฯวิเคราะห์และคาดหมายไว้
เพราะคุณพี่ ริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ได้เมตตาวิเคราะห์ภาพรวมของงานสัปดาห์ฯคราวนี้เอาไว้ว่า
“สรุปยอดผู้เข้ามาชมงานและจับจ่ายหนังสือทั้งสิ้นมากกว่า 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากงานครั้งที่แล้ว ร้อยละ 5 เนื่องจากปีนี้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสึนามิ แผ่นดินไหว อุทกภัย สภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ผู้คนเห็นความสำคัญเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจอย่างมาก
โดยบรรยากาศในงานคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัยที่สนใจเข้ามาชมและเลือกซื้อหนังสือมากมาย สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยสนใจอ่านหนังสือกันมากขึ้น สำหรับยอดขายหมุนเวียนภายในงานประมาณ 400 ล้านบาทตามเป้าหมายที่คาดไว้”
และแน่นอนว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นกับเพื่อนร่วมโลก อย่างภัยสึนามิถล่มญี่ปุ่นทางสมาคมฯก็ไม่ได้นิ่งดูดาย เพราะเมื่อคราวที่จัดงานครั้งที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่นก็ได้เป็นประเทศรับเชิญเกียรติยศที่มาร่วมในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติคราวที่แล้ว พอมาคราวนี้ญี่ปุ่น ได้ประสบปัญหาภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง
ทางสมาคมฯ เลยได้จัดตั้งกล่องรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น และจัดกิจกรรม ปั้นดิน ปั้นใจ ให้หนังสือด้วยพร้อมกับรับบริจาคเงินด้วย แถมในวันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ มาเปิดตัวหนังสือของตัวเองสองเล่ม คือ บังคลา(ประ)เทศ และอะแมซิ่งรัสเซีย ก็มีการประมูลภาพวาดลายเส้นการ์ตูนสไตล์อู๊ดด้า ได้เงินไป 35,000 บาท รวมทั้งเงินที่ได้จากการขายหนังสือทั้งสองเล่มบริเวณหน้างานเปิดตัว ทางสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ในเครือบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดียจำกัด (มหาชน) ก็ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับทางสมาคมฯทั้งหมดด้วย รวมๆ แล้ว ก็ร่วมแสนบาท
สรุปว่า ตลอดเวลาการจัดงานทั้ง 13 วันมียอดผู้บริจาคเงินทั้งหมดกว่า สามแสนห้าหมื่นบาท และสมาคมฯ พร้อมด้วยสมาชิกร่วมสมทบอีกเพื่อให้ได้จำนวนเงินบริจาคทั้งสิ้นห้าแสนบาท โดยจะนำเงินทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Book Publishers Association) เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นผู้ประสบภัยต่อไป งานนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดว่า ยังมีน้ำใจจากคนไทยอีกมากมายที่พร้อมจะมอบน้ำใจและแรงใจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่ตกทุกข์ได้ยากเสมอ
ครับ—สำหรับประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและขายดีติดอันดับภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 39 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 9 ได้แก่ หมวดการ์ตูนความรู้ นวนิยาย วรรณกรรมเยาวชน และประวัติศาสตร์
โดย หนังสือขายดีภายในงาน อาทิเช่น The Genius of China ต้นกำเนิด 100 สิ่งแรกของโลก โดยสำนักพิมพ์มติชน ,การ์ตูนความรู้เรื่องล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า สวิตเซอร์แลนด์ โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, 7’s So what สวย แสบ ซ่าส์ มีปัญหามั้ยคะสุดหล่อ โดยสำนักพิมพ์แจ่มใส, ,นวนิยายจีนกำลังภายใน พยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า โดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ และนวนิยายชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” โดยสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์
อย่างที่บอกล่ะครับว่า…ผมนั่งอ่านรายงานสรุปภาพรวมของงานฯแล้วปลื้มใจ ยินดีปรีดาด้วยกับ สำนักพิมพ์น้อยใหญ่ทั้งหลายคงจะหายใจคล่องขึ้นและจะได้เลิกบ่นเสียทีว่า คนไทยเราไม่อ่านหนังสือ
งานคราวนี้ เก็บเงินกันมาร่วม 400 ล้านบาท ก็แบ่งๆ เฉลี่ยๆ กันไปค่ายเล็กค่ายใหญ่…รวมๆ แล้วก็น่าจะได้มีแรงกายแรงใจทำหนังสือกันใหม่
เพื่อเตรียมขนมาขายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 16 ปลายปีนี้…นะครับ!!
ขอบคุณบทความดีๆจาก : http://www.bangkokbiznews.com โดย : Mr.QC