งานวิจัย : ผลของการเรียนการสอนด้วยกลวิธีการอ่านแบบร่วมมือที่มีต่อความสามารถในการอ่าน ภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
พรรณนภา เพิ่มพูล (2549) นิสิตปริญญาโท สาขาการสอนภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำวิจัยเรื่อง ผลของการเรียนการสอนด้วยกลวิธีการอ่านแบบร่วมมือที่มีต่อความสามารถในการอ่าน ภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโสธรพิทยาคม จังหวัดยโสธร จำนวน 100 คน แบ่งเป็น กลุ่มทดลองใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ และกลุ่มควบคุมใช้วิธีการสอนอ่านแบบปกติ ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1) นักเรียนกลุ่มทดลองมีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ หลังทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจอยู่ในระดับดี โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตของความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจคิดเป็น 76.10% 2) นักเรียนกลุ่มทดลอง มีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ สูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
พรรณนภา เพิ่มพูล. (2549).ผลของการเรียนการสอนด้วยกลวิธีการอ่านแบบร่วมมือที่มีต่อความสามารถในการอ่าน ภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ อ.ม. (การสอนภาษาไทย). กรุงเทพฯ :บัณทิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อาจารย์ที่ปรึกษา:อาจารย์ กมลมนัสชท์ บัณฑิตยานนท์
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ระหว่างก่อนและหลังการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ 2) ความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น หลังการทดลองสอนอ่านโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ 3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ ระหว่างนักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านด้วยกลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ กับนักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านแบบปกติ
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโสธรพิทยาคม จังหวัดยโสธร ปีการศึกษา 2549 จำนวน 2 ห้องๆ ละ 50 คน กลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง สอนอ่านโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุม สอนอ่านโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบปกติ ผู้วิจัยดำเนินการสอนทั้งสองกลุ่มด้วยตนเอง ใช้เวลาสอนกลุ่มละ 2 คาบ ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s) และทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า
- นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ได้รับการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ มีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจอยู่ในระดับดี โดยมีค่ามัธฌิมเลขคณิตของความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจคิดเป็น 76.10%
- นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ มีความสามารถในการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านด้วยวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05