Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : ผลของการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลที่มีต่อความ เข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

จิตติมา จรรยาธรรม  (2538) นิสิตปริญญาโท สาขาจิตวิทยาการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำวิจัยเรื่อง ผลของการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลที่มีต่อความ เข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนระยองวิทยาคม จำนวน 60 คนจำนวน 2 ห้อง กลุ่มทดลอง ได้รับการฝึกทักษะ การอ่านด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผล ส่วนกลุ่มควบคุม ฝึกทักษะการอ่านด้วยวิธีการสอนตามปกติของครู ผลการวิจัยพบว่า 1. หลังการทดลอง นักเรียนกลุ่มทดลอง จะมีความเข้าใจในากรอ่านสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. หลังการทดลอง นักเรียนในกลุ่มทดลอง จะมีความเข้าใจในการอ่านสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 

จิตติมา จรรยาธรรม . (2538).ผลของการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลที่มีต่อความ เข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (จิตวิทยาการศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อาจารย์ที่ปรึกษา: รศ.ดร. ชุมพร ยงกิตติกุล

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลที่มีต่อความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนระยองวิทยาคม ปีการศึกษา 2538 จำนวน 60 คนโดยการคัดเลือกจากห้องที่นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยวิชาภาษาไทยและคะแนนเฉลี่ยจากแบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านไม่แตกต่างกันจำนวน 2 ห้อง สุ่มห้องหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง และอีกห้องหนึ่ง เป็นกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คนนักเรียนในกลุ่มทดลองได้รับการฝึกทักษะ การอ่านด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลส่วนนักเรียนในกลุ่มควบคุมฝึกทักษะการอ่านด้วยวิธีการสอนตามปกติของครูกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มสอนโดยครูคนเดียวกัน ใช้เวลาในการฝึกเป็นเวลา 8 สัปดาห์จำนวน 16 ครั้ง ครั้งละ50 นาที เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบวัดความ เข้าใจในการอ่านก่อนและหลังการฝึกการอ่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบความแตกต่างของคะแนนความเข้าใจในการอ่านด้วยวิธีทดสอบค่าที (t-test) 

 

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

  1. ภายหลังการทดลอง นักเรียนในกลุ่มที่เรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลจะมีความเข้าใจในากรอ่านสูงกว่าก่อนรับการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 
  2. ภายหลังการทดลอง นักเรียนในกลุ่มที่เรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มแบบคละสัมฤทธิ์ผลจะมีความเข้าใจในการอ่านสูงกว่า นักเรียนในกลุ่มที่เรียนด้วยวิธีการสอนตามปกติของครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05