งานวิจัย : ความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยที่ใช้คำคล้องจองประกอบภาพ
ณภัทรสร จรจรัญ. (2551). นิสิตปริญญาโท สาขาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ศึกษาความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยที่ใช้คำคล้องจองประกอบภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 3 – 4 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลสุดารักษ์ สังกัดสำนักงาคณะกรรมการศึกษาเอกชน กรุงเทพมหานคร จำนวน 15 คน และดำเนินการจัดกิจกรรมให้เด็กใช้คำคล้องจองประกอบภาพ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15 นาที รวม 24 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการใช้คำคล้องจองประกอบภาพ และแบบทดสอบ ความสามารถด้านการฟังและการพูด ผลการวิจัยพบว่า การใช้คำคล้องจองประกอบภาพสามารถส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีความสามารถ ด้านการฟังโดยรวมและรายด้านทุกด้าน (ประกอบด้วย ด้านการจำแนกเสียง ด้านการฟังเรื่องราว และด้านการปฏิบัติตามคำสั่ง) รวมทั้งความสามารถด้านการพูดโดยรวมและรายด้าน (ประกอบด้วย ด้านการพูดคำศัพท์ด้านการพูดแต่งประโยคปาก และด้านการพูดสื่อสาร) ทุกด้านสูงขึ้นจากก่อนการทดลองอย่างชัดเจน
ณภัทรสร จรจรัญ. (2551). ความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยที่ใช้คำคล้องจองประกอบภาพ. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม : รองศาสตราจารย์ ดร. สิริมา ภิญโญอนันตพงษ์, รองศาสตราจารย์ ดร.บุญเชิด ภิญโญอนันตพงษ์.
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความสามารถด้านการฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยที่ใช้คำคล้องจองประกอบภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 3 – 4 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนอนุบาลสุดารักษ์ สังกัดสำนักงาคณะกรรมการศึกษาเอกชน กรุงเทพมหานคร จำนวน 15 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) และดำเนินการจัดกิจกรรมให้เด็กใช้คำคล้องจองประกอบภาพ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15 นาที รวมทั้งสิ้น 24 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการใช้คำคล้องจองประกอบภาพ และแบบทดสอบ ความสามารถด้านการฟังและการพูด จำนวน 60 ข้อ มีความเที่ยงตรงตามเนื้อหาทั้งฉบับเท่ากับ .91 และมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .84 แบบแผนการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงกึ่งทดลองแบบ Single – Group Pretest – Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ t – test แบบ Dependent Sample
ผลการวิจัยพบว่า
หลังการใช้คำคล้องจองประกอบภาพ ความสามารถด้านการฟังโดยรวมมีผลต่างเฉลี่ยเท่ากับ 7.86 คะแนน และรายด้าน ปรากฏว่า ด้านการจำแนกเสียงมีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเท่ากับ 2.13 คะแนน ด้านการฟังเรื่องราวมีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเท่ากับ 2.93 คะแนน และด้านการปฏิบัติตามคำสั่งมีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเท่ากับ 2.80 คะแนน ซึ่งทุกด้านมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นจากก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนความสามารถด้านการพูดโดยรวมมีผลต่างเฉลี่ยเท่ากับ 6.93 คะแนน และรายด้านปรากฏว่า ด้านการพูดคำศัพท์มีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเท่ากับ 2.06 คะแนนด้านการพูดแต่งประโยคปากเปล่า มีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเท่ากับ 2.33 คะแนน และด้านการพูดสื่อสารมีผลเฉลี่ยสูงขึ้นเทากับ 2.53 คะแนน ซึ่งรายด้านทุกด้านสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 แสดงว่า การใช้คำคล้องจองประกอบภาพสามารถส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีความสามารถ ด้านการฟังโดยรวมและรายด้านทุกด้าน รวมทั้งความสามารถด้านการพูดโดยรวมและรายด้านทุกด้านสูงขึ้นจากก่อนการทดลองอย่างชัดเจน