มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานวิจัย : ความสัมพันธ์ระหว่างความจำระยะสั้นด้านภาษาความสามารถในการฟังและการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กรุงเทพมหานคร

มยุรี บุญมาทน  (2543) นิสิตปริญญาโท  คณะครุศาสตร์  สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างความจำระยะสั้นด้านภาษาความสามารถในการฟังและการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 กรุงเทพมหานคร  กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 398 ผลการวิจัยพบว่า  ช่วงความจำระยะสั้นด้านภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5ในด้านการจำตัวอักษรภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4 ตัวอักษรในด้านการจำคำภาษาอังกฤษที่คุ้นเคยโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4 คำในด้านการจำประโยคภาษาอังกฤษมีความยาวโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5 คำ  ความจำระยะสั้นด้านภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสามารถในการฟังเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ   และมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ

มยุรี บุญมาทน.  (2543).  ความสัมพันธ์ระหว่างความจำระยะสั้นด้านภาษาความสามารถในการฟังและการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 กรุงเทพมหานคร.  วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การสอนภาษาอังกฤษ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:อ.สุจิตรา สวัสดิวงษ์.

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาช่วงความจำระยะสั้นด้านภาษาในด้านการจำตัวอักษรภาษาอังกฤษ การจำคำภาษาอังกฤษที่คุ้นเคย และการจำประโยคภาษาอังกฤษ และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความจำระยะสั้นด้านภาษา ความสามารถในการฟังและการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร จำนวน 398 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดความจำระยะสั้นด้านภาษา 1 ชุดโดยแบ่งเป็น 3 ตอน คือ แบบวัดช่วงความจำตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบวัดช่วงความจำคำภาษาอังกฤษที่คุ้นเคย และแบบวัดช่วงความจำประโยคภาษาอังกฤษ แบบสอบวัดความสามารถในการฟังเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ และแบบสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่ามัธยฐาน ค่ามัชฌิมเลขคณิตส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน 

 

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 

  1. ช่วงความจำระยะสั้นด้านภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5ในด้านการจำตัวอักษรภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4 ตัวอักษรในด้านการจำคำภาษาอังกฤษที่คุ้นเคยโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4 คำในด้านการจำประโยคภาษาอังกฤษมีความยาวโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5 คำ 
  2. ความจำระยะสั้นด้านภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความสามารถในการฟังเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 
  3. ความจำระยะสั้นด้านภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01