มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานวิจัย : ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของแรงจูงใจในการอ่านกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษากรุงเทพมหานคร

 

พิมพัชร พงษ์ตน (2544) นิสิตปริญญาโท  คณะครุศาสตร์  สาขาวิชาการสอนภาษาไทย  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของแรงจูงใจในการอ่านกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษากรุงเทพมหานคร  กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน  ผลการวิจัยพบว่า  แรงจูงใจในการอ่านรวมทุกองค์ประกอบกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความสัมพันธ์ทางบวกกัน และเมื่อพิจารณาแต่ละองค์ประกอบพบว่า มี 7 องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทย คือ ความคาดหวังในตนเอง ความท้าทาย ประสบการณ์ ความสำคัญในการอ่าน การตระหนักรู้การแข่งขัน และความกระตือรือร้น 

พิมพัชร พงษ์ตน.  (2544).  ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของแรงจูงใจในการอ่านกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษากรุงเทพมหานคร.  วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การสอนภาษาไทย). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:รศ.จิตต์นิภา ศรีไสย์รศ ดร.สุวัฒนา อุทัยรัตน์.

การวิจัครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการอ่าน ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทย และความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการอ่านกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร ตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบทดสอบแรงจูงใจในการอ่าน จำนวน 54 ข้อ และแบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทย จำนวน 60 ข้อ 

 

ผลการวิจัยพบว่า 

  1. แรงจูงใจในการอ่านตามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับปานกลาง จำแนกเป็นรายองค์ประกอบพบว่า องค์ประกอบของแรงจูงใจในการอ่าน ทุกองค์ประกอบ ซึ่งได้แก่ ความคาดหวังในตนเองความท้าทาย ประสบการณ์ ความสำคัญในการอ่าน การตระหนักรู้ การแข่งขัน ผลการเรียน การตอบสนองทางสังคม ความคาดหวังของผู้อื่น ความกระตือรือร้น อยู่ในระดับปานกลาง 
  2. ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3อยู่ในระดับผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดของกรมวิชาการ ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยขั้นความเข้าใจข้อเท็จจริงอยู่ในระดับผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยขั้นการตีความ และความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยขั้นการประเมินค่า อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
  3. แรงจูงใจในการอ่านรวมทุกองค์ประกอบกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความสัมพันธ์กัน ในทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาแต่ละองค์ประกอบพบว่า มี 7 องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ความคาดหวังในตนเอง ความท้าทาย ประสบการณ์ ความสำคัญในการอ่าน การตระหนักรู้การแข่งขัน และความกระตือรือร้น