งานวิจัย : การใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาเพื่อส่งเสริมความสามารถทางการพูด การเขียนภาษาอังกฤษ และความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น
วัชราภรณ์ ตั้งวิวัฒนาพานิช (2545) นักศึกษาปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการวิจัยเรื่องการใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาเพื่อส่งเสริมความสามารถทางการพูด การเขียนภาษาอังกฤษ และความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 36 คน ซึ่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด โรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบว่า1. จากการประเมินระหว่างการเรียนการสอนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษแต่ละเรื่อง จำนวน 5 ครั้ง ความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 หลังการเรียนครั้งที่ 3 ถึงครั้งที่ 5 ส่วนความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 หลังการเรียนครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 5 เท่านั้น นอกจากนี้หลังการเรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนา ร้อยละของจำนวนนักเรียนที่มีความตระหนักในระดับการตอบสนอง การเห็นคุณค่า และการจัดระบบคุณค่า นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น
วัชราภรณ์ ตั้งวิวัฒนาพานิช. (2545). การใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาเพื่อส่งเสริมความสามารถทางการพูด การเขียนภาษาอังกฤษ และความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น. วิทยานิพนธ์ (การสอนภาษาอังกฤษ). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ : ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.วนิดา เพ็ญกิ่งกาญจน์, ศาสตราจารย์นันทิยา แสงสิน, รองศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษ ความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษ และเพื่อเปรียบเทียบความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นของนักเรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 36 คน ซึ่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2544 โรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการสอน จำนวน 5 แผน โดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษในแต่ละแผน แบบวัดความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษจากการแสดงบทบาทสมมติ แบบวัดความสามารถทางการเขียนนิทานภาษาอังกฤษ และแบบสอบถามความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น ขั้นตอนการวิจัย ประกอบด้วย การสอบถามความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นของนักเรียนก่อนการสอน การดำเนินการเรียนการสอนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษ จำนวน 5 แผน แผนละ 4 คาบ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ การวัดความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษ และวัดความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนหลังการสอนแต่ละแผน และการสอบถามความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นหลังการสอนสิ้นสุดลง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และค่าร้อยละ
ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้
- 1. จากการประเมินระหว่างการเรียนการสอนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษแต่ละเรื่อง จำนวน 5 ครั้ง ความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 หลังการเรียนครั้งที่ 3 ถึงครั้งที่ 5 เท่านั้น
- 2. จากการประเมินระหว่างการเรียนการสอนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาฉบับภาษาอังกฤษแต่ละเรื่อง จำนวน 5 ครั้ง ความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 หลังการเรียนครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 5 เท่านั้น
- 3. ระดับความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนาอยู่ในระดับการตอบสนอง การเห็นคุณค่า และการจัดระบบคุณค่า และหลังการเรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านล้านนา ร้อยละของจำนวนนักเรียนที่มีความตระหนักในทั้ง 3 ระดับนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น