งานวิจัย : การเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา
เบญจางค์ ดิสสระ(2536) นิสิตปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำการวิจัยเรื่องการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่เรียนในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 432คน ผลการวิจัยพบว่า1. ใน 1ปี ผู้ปกครองส่วนมากซื้อหนังสือสำหรับเด็กประมาณ 1-6ครั้ง ช่วงราคาหนังสือที่ซื้อกันมากคือ 10-20บาท2. เหตุผลที่ผู้ปกครองใช้ในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในระดับมากมี 3ด้าน คือ ด้านส่งเสริมลักษณะนิสัย ด้านเนื้อเรื่อง และด้านภาษา3. ปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองที่พบ คือ หนังสือสำหรับเด็กส่วนมากมีราคาแพง ไม่มีเวลาซื้อเพราะยุ่งกับการประกอบอาชีพ ร้านหนังสืออยู่ไกลบ้าน สถานที่จำหน่ายหนังสือมีน้อยแห่ง และหนังสือไม่ได้ระบุว่าเหมาะกับเด็กวัยใดจึงไม่แน่ใจว่าซื้อไปแล้วเด็กจะสนใจ4. ผู้ปกครองที่มีการศึกษาสูงกว่า ม.6ใช้เหตุผลในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในด้านส่งเสริมลักษณะนิสัย และด้านเนื้อเรื่อง มากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาต่ำกว่า/เท่ากับ ม.6 5. ผู้ปกครองที่มีการศึกษาต่ำกว่า/ เท่ากับ ม.6มีปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในเรื่อง รายได้ไม่เหลือพอที่จะซื้อ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อ ไม่มีผู้แนะนำในการเลือกซื้อ และไม่ทราบแหล่งซื้อ มากกว่าผู้ปกรองที่มีการศึกษาสูงกว่า ม.6
เบญจางค์ ดิสสระ. (2536). การเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (บรรณารักษศาสตร์). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม :รองศาสตราจารย์พวา พันธุ์เมฆา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกสร เจริญรักษ์.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการเลือก เหตุผล และปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร และเพื่อเปรียบเทียบสภาพการเลือก เหตุผล และปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนที่มีระดับการศึกษาและรายได้แตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่เรียนในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 432คน แบ่งออกเป็น 3กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนที่มีรายได้ระดับต่ำ ระดับปานกลาง และระดับสูง กลุ่มละ 144คน แต่ละกลุ่มเป็นผู้ปกครองนักเรียนที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่า/ เท่ากับ มัธยมศึกษาตอนปลาย 72คน และสูงกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 72คน แบ่งโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยถือเกณฑ์ว่าผู้ปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยรวมทั้งครอบครัวต่ำกว่า 8,000บาท เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับต่ำ ผู้ปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยรวมทั้งครอบครัวระหว่าง 8,000-15,000บาท เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับปานกลาง ผู้ปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยรวมทั้งครอบครัวสูงกว่า 15,000บาท เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับสูง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า Z-testและ F-test
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
- ใน 1ปี ผู้ปกครองส่วนมากซื้อหนังสือสำหรับเด็กประมาณ 1-6ครั้ง ช่วงราคาหนังสือที่ซื้อกันมากคือ 10-20บาท ผู้ปกครองที่ไม่เคยซื้อหนังสือให้แก่เด็กเลยให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะไปซื้อหนังสือให้แก่เด็ก
-
เหตุผลที่ผู้ปกครองใช้ในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในระดับมากมี 3ด้าน คือ ด้านส่งเสริมลักษณะนิสัย ด้านเนื้อเรื่อง และด้านภาษา
-
ปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองที่พบ 5อันดับแรก คือ หนังสือสำหรับเด็กส่วนมากมีราคาแพง ไม่มีเวลาซื้อเพราะยุ่งกับการประกอบอาชีพ ร้านหนังสืออยู่ไกลบ้าน สถานที่จำหน่ายหนังสือมีน้อยแห่ง และหนังสือไม่ได้ระบุว่าเหมาะกับเด็กวัยใดจึงไม่แน่ใจว่าซื้อไปแล้วเด็กจะสนใจ
-
ผู้ปกครองที่มีการศึกษาสูงกว่า ม.6ใช้เหตุผลในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในด้านส่งเสริมลักษณะนิสัย และด้านเนื้อเรื่อง มากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาต่ำกว่า/เท่ากับ ม.6
-
ผู้ปกครองที่มีการศึกษาต่ำกว่า/ เท่ากับ ม.6มีปัญหาในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กในเรื่อง รายได้ไม่เหลือพอที่จะซื้อ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อ ไม่มีผู้แนะนำในการเลือกซื้อ และไม่ทราบแหล่งซื้อ มากกว่าผู้ปกรองที่มีการศึกษาสูงกว่า ม.6