งานวิจัย : การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาทางการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหา ทางการออกเสียงที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี โดยวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน

พรรณพร ศรลัมพ์ (2547)นิสิตปริญญาโท สาขาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาทางการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหาทางการออกเสียงที่มีอายุระหว่าง 12-15ปี โดยวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีปัญหาทางการอ่านออกเสียง จำนวน 10 คน โรงเรียนบ้านมาบกระเปาะ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนที่มีปัญหาทางการอ่านออกเสียงที่ได้ใช้วิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านก่อนทดลองได้คะแนนเฉลี่ย 25.90คะแนนอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และหลังการทดลองได้คะแนนเฉลี่ย 63.80 คะแนน อยู่ในระดับดี จากคะแนนเต็ม 80 คะแนน 2) นักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนหลังการสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านออกเสียงสูงขึ้นกว่าก่อนการสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

พรรณพร ศรลัมพ์. (2547). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาทางการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหา ทางการออกเสียงที่มีอายุระหว่าง 12-15ปี โดยวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน.ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะกรรมการควบคุม :ศาสตราจารย์ ศรียา  นิยมธรรม, ดร. สุขแก้ว คำสอน .

การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหา ทางการอ่านออกเสียงที่มีอายุระหว่าง12-15ปี ก่อนและหลังการทดลองใช้การสอนอ่านออกเสียงด้วยวิธีการแบบเพื่อนช่วยเพื่อน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนที่มีปัญหาทางการอ่านออกเสียงที่มีอายุระหว่าง12-15ปี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2546จำนวน 10 คน โรงเรียนบ้านมาบกระเปาะ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ระยะเวลาในการทดลอง 6สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5วัน วันละ 40 นาที รวมทั้งสิ้น 30 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการสอนการอ่านออกเสียงโดยวิธีการแบบเพื่อนช่วยเพื่อน และแบบทดสอบความสามารถทางด้านการอ่านออกเสียงที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น นำไปทดสอบก่อนและหลังเรียนกับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทำการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบทดสอบแบบ the Wilcoxon Matched Pairs Sighed-Ranks Test

ผลการวิจัยพบว่า

1. นักเรียนที่มีปัญหาทางการอ่านออกเสียงที่ได้ใช้วิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านก่อนทดลองได้คะแนนเฉลี่ย 25.90คะแนนอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และหลังการทดลองได้คะแนนเฉลี่ย 63.80 คะแนน อยู่ในระดับดี จากคะแนนเต็ม 80 คะแนน

2. นักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนหลังการสอนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านออกเสียงสูงขึ้นกว่าก่อนการสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05