Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

สายัณต์  อุตทอง. (2553). นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาศิลปศึกษา  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำการวิจัยเรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา  ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1  โรงเรียนสฤษดิเดช  อำเภอเมือง  จังหวัดจันทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 1 จำนวน 50 คน  ผลการวิจัยพบว่า 1. นิสัยส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 89.36/ 85.60  โดยหนังสือส่งเสริมการอ่านทุกเล่มที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80  2.  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนการอ่านและหลังการอ่านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการอ่านสูงกว่าก่อนการอ่าน  3.  ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด

สายัณต์  อุตทอง. (2553).  การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนศิลปะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ.  ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (ศิลปศึกษา).  กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.  คณะกรรมการควบคุม : รองศาสตราจารย์พฤทธิ์  ศุภเศรษฐศิริ   และรองศาสตราจารย์  วรรณรัตน์  ตั้งเจริญ.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระ  การเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80  2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระ  การเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนการอ่านและหลังการอ่าน  และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการอ่าน  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา  ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1  โรงเรียนสฤษดิเดช  อำเภอเมือง  จังหวัดจันทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 1  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2552  จำนวน 50 คน  ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple  Random  Sampling) โดยวิธีจับสลาก

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ หนังสือส่งเสริมการอ่าน  กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 เล่ม  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  แผนการจัดการเรียนรู้ควบคู่หนังสือส่งเสริมการอ่าน  แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (X)   ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และ t-test แบบ Dependent

ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้

  1. นิสัยส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 89.36/ 85.60  โดยหนังสือส่งเสริมการอ่านทุกเล่มที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
  2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนการอ่านและหลังการอ่านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการอ่านสูงกว่าก่อนการอ่าน
  3. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อหนังสือส่งเสริมการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด