งานวิจัย : การศึกษาความเข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการเขียน และความ สนใจในการเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกห์ (MIA)
สมเกียรติ กินจำปา (2545)นิสิตปริญญาโท สาขาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครีนทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การศึกษาความเข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการเขียน และความสนใจในการเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ที่ได้รับการสอนอ่านแบบบูรณาการของ เมอร์ดอกห์ (MIA)กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนของโรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง จำนวน 100 คน แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มทดลองใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกห์ (MIA)กับกลุ่มควบคุมใช้วิธีการสอนอ่านตามคู่มือครู โดยแต่ละกลุ่มได้ทำการสอนโดยใช้เนื้อหาเดียวกัน แล้วทำการวัดผลความเข้าใจในการอ่าน และความสามารถในการขียนและความสนใจในการเรียน ผลการวิจัยพบว่า ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง 2 กลุ่ม ในด้านความเข้าใจในการอ่านทั้งหมด ด้านความสามารถในการเขียน และด้านความสนใจในการเรียนภาษาไทย
สมเกียรติ กินจำปา. (2545). การศึกษาความเข้าใจในการอ่านความสามารถในการเขียน และความ สนใจในการเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ที่ได้รับการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกห์ (MIA).ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การประถมศึกษา).กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม :รองศาสตราจารย์กรรณิการ์ พวงเกษม, ดร.มนัส บุญประกอบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5ภาคเรียนที่ 1ปี การศึกษา 2544ของโรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง โดยได้คัดเลือกนักเรียนออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม จำนวนกลุ่มละ 50คน ใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกห์(MIA)กับกลุ่มทดลอง และใช้วิธีการสอนอ่านตามคู่มือครูกับกลุ่มควบคุม แต่ละกลุ่มได้ทำการสอนโดยใช้เนื้อหาเดียวกัน เวลาที่ใช้ในการสอน 20คาบ แล้วทำการวัดผลความเข้าใจในการอ่าน และความสามารถในการขียนและความสนใจในการเรียน โดยทำการวัดผลทั้งสองกลุ่มหลังทำการสอนเสร็จ และใช้สถิติ Z-testมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งแต่ละกลุ่มมีอิสระต่อกัน เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่าง 2 กลุ่ม พร้อมทั้งใช้สถิตถิ F-test มาใช้ทดสอบเปรียบเทียบค่าความแปรปรวน
ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
-
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง 2 กลุ่ม ในด้านความเข้าใจในการ อ่านทั้งหมด ถึงแม้ค่าความแตกต่างในด้านความเข้าใจในการอ่าน พบว่า ค่าสถิติในกลุ่มทดลองจะสูงกว่ากลุ่มควบคุมก็ตาม อีกทั้งเมื่อแบ่งความเข้าใจในการอ่านออกเป็น 4ด้านด้วยแล้วในทักษะในด้านการขยายความ ยังพบว่าความแตกต่างทางสถิติระหว่าง 2 กลุ่มที่ระดับ .05ด้วยกลุ่มควบคุมทำได้ดีกว่า
-
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง 2 กลุ่ม ในด้านความสามารถใน การเขียน ถึงแม้ค่าความแตกต่างในด้านความสามารถในการเขียน พบว่ากลุ่มควบคุมจะสูงกว่ากลุ่มทดลองด้วยค่าทางสถิติที่ระดับ .01
-
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง2กลุ่ม ในด้านความสนใจในการ เรียนภาษาไทย และทั้งสองกลุ่มยังพบความแตกต่างของค่าความแปรปรวนทางสถิติภายในกลุ่มด้วย