งานวิจัย : การศึกษาความสนใจและการใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาทางไกลในจังหวัดศรีสะเกษ

เบญจพร หมื่นสวัสดิ์ (2542) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาเอกการศึกษาผู้ใหญ่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่องการศึกษาความสนใจและการใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาทางไกลในจังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน วิธีเรียนทางไกลของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดศรีสะเกษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย จำนวน 522 คน ผลการวิจัย พบว่า 1.พฤติกรรมการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า อ่านสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ที่บ้านตนเอง อ่านครั้งละ 2 ฉบับ ร้อยละ 74.10อ่านเมื่อมีเวลาว่าง ร้อยละ 44.20อ่านครั้งละไม่เกิน 30นาที และร้อยละ 75.90 อ่านเพื่อให้ทันเหตุการณ์ 2.  ความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า ทั้ง 3ด้านคือ ด้านเนื้อหาประเภทข่าว ด้านเนื้อหาประเภทคอลัมน์และสารคดี และด้านเนื้อหาประเภทโฆษณาและการ์ตูน มีความสนใจอ่านอยู่ในระดับปานกลาง 3.  เปรียบเทียบความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า 3.1 นักศึกษามีเพศและมีช่วงอายุต่างกันมีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ เนื้อหาประเภทข่าว ประเภทคอลัมน์และสารคดี  ประเภทโฆษณาและการ์ตูน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 4. การใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า นักศึกษานำความรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไปใช้ประโยชน์ต่อการเรียนวิชาต่างๆ อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนการใช้ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ และต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของนักศึกษาอยู่ในระดับมาก 5. ปัญหาและข้อเสนอแนะของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการอ่านหนังสือพิมพ์ 5.1 แหล่งที่อ่านอยู่ไกลบ้าน ไม่ค่อยมีแหล่งที่อ่าน และแหล่งที่อ่านไม่มีความสงบ 5.2 ควรมีห้องสมุดประจำทุกหมู่บ้าน ที่อ่านหนังสือควรจะมีหนังสือพิมพ์ในแต่ละวันมากกว่าในปัจจุบัน

เบญจพร หมื่นสวัสดิ์.(2542). การศึกษาความสนใจและการใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาทางไกลในจังหวัดศรีสะเกษ.ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาผู้ใหญ่). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาพฤติกรรมการอ่าน ความสนใจในการอ่าน และการใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาทางไกล ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเปรียบเทียบความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์และการใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาที่จำแนกตามเพศ ช่วงอายุ สภาพการมีงานทำ และระดับการศึกษา และเพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการที่มีต่อการให้บริการหนังสือพิมพ์รายวันของนักศึกษาศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดศรีสะเกษ

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน วิธีเรียนทางไกลของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2539จำนวน 522 คน ซึ่งได้จากกการสุ่มอย่างง่ายตามระดับชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5ระดับ และคำถามปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ

สรุปผลการวิจัย ดังนี้

1. พฤติกรรมการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า อ่านสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ที่บ้านตนเอง อ่านครั้งละ 2 ฉบับ ร้อยละ 74.10อ่านเมื่อมีเวลาว่าง ร้อยละ 44.20อ่านครั้งละไม่เกิน 30นาที และร้อยละ 75.90 มีจุดมุ่งหมายในการอ่านเพื่อให้ทันเหตุการณ์

2. ความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า ทั้ง 3ด้านคือ ด้านเนื้อหาประเภทข่าว ด้านเนื้อหาประเภทคอลัมน์และสารคดี และด้านเนื้อหาประเภทโฆษณาและการ์ตูน มีความสนใจอ่านอยู่ในระดับปานกลาง

3. เปรียบเทียบความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า

   • 3.1 นักศึกษามีเพศและมีช่วงอายุต่างกันมีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ เนื้อหาประเภทข่าว แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
   • 3.2 นักศึกษามีสภาพการทำงานต่างกันและมีระดับการศึกษาต่างกัน มีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์เนื้อหาประเภทข่าว ไม่แตกต่างกัน
   • 3.3 นักศึกษาที่มีช่วงอายุต่างกันมีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์เนื้อหาประเภทคอลัมน์และสารคดี แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
   • 3.4 นักศึกษาที่มีเพศ สภาพการทำงานและระดับการศึกษาต่างกัน มีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์เนื้อหาประเภทคอลัมน์และสารคดี ไม่แตกต่างกัน
   • 3.5 นักศึกษาที่มีช่วงอายุต่างกัน มีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์เนื้อหาประเภทโฆษณาและการ์ตูน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
   • 3.6 นักศึกษาที่มีเพศต่างกัน มีสภาพการทำงานต่างกันและมีระดับการศึกษาต่างกัน มีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์เนื้อหาประเภทโฆษณาและการ์ตูนไม่แตกต่างกัน

4. การใช้ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า นักศึกษานำความรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไปใช้ประโยชน์ต่อการเรียนวิชาต่างๆ อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนการใช้ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ และต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของนักศึกษาอยู่ในระดับมาก

5. เปรียบเทียบการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ของนักศึกษาโดยรวม พบว่า

   • 5.1 นักศึกษาที่มีเพศ มีสภาพการทำงานและมีระดับการศึกษาต่างกัน นำความรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไปใช้ประโยชน์ต่อการเรียนวิชาต่างๆ ไม่แตกต่างกัน แต่นักศึกษาที่มีช่วงอายุต่างกัน มีการนำไปใช้ประโยชน์แตกต่างกัน
   • 5.2 นักศึกษาที่มีเพศ มีช่วงอายุ มีสภาพการมีงานทำ และมีระดับการศึกษาต่างกันนำความรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไปใช้ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพไม่แตกต่างกัน
   • 5.3 นักศึกษาที่มีเพศ มีช่วงอายุและมีระดับการศึกษาต่างกัน นำความรู้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไปใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันไม่แตกต่างกัน นักศึกษาที่มีสภาพการทำงานที่ต่างกัน มีการนำไปใช้ประโยชน์แตกต่างกัน

6. ปัญหาและข้อเสนอแนะของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการอ่านหนังสือพิมพ์

   • 6.1 แหล่งที่อ่านอยู่ไกลบ้าน ไม่ค่อยมีแหล่งที่อ่าน และแหล่งที่อ่านไม่มีความสงบ
   • 6.2 ควรมีห้องสมุดประจำทุกหมู่บ้าน ที่อ่านหนังสือควรจะมีหนังสือพิมพ์ในแต่ละวันมากกว่าในปัจจุบัน และควรจัดส่งหนังสือพิมพ์ให้ตรงเวลา