Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาตามทฤษฎีโครงสร้างทางสมองของกิลฟอร์ดกับความเข้าใจในการอ่าน

กนกรัตน์  หมั่นวาจา(2545) นิสิตปริญญาโท  สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาตามทฤษฎีโครงสร้างทางสมองของกิลฟอร์ดกับความเข้าใจในการอ่าน ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิด 6 แบบ คือ แบบหน่วย แบบจำพวก แบบความสัมพันธ์ แบบระบบแบบการแปลงรูป และแบบการประยุกต์กับความเข้าใจในการอ่าน และศึกษาค่าน้ำหนักความสำคัญของสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษา ในแต่ละผลการคิดที่ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 830 คน ผลการศึกษาพบว่า 1.  ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิด 6แบบ กับความเข้าใจในการอ่าน มีค่าเท่ากับ 0.657 ซึ่งสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.  ค่าน้ำหนักความสำคัญของสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิดแบบหน่วย แบบจำพวก แบบระบบ และแบบการประยุกต์ ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่สมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิดแบบความสัมพันธ์และแบบการแปลงรูป ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่านอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

กนกรัตน์  หมั่นวาจา, (2545). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาตามทฤษฎีโครงสร้างทางสมองของกิลฟอร์ดกับความเข้าใจในการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การวัดผลการศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม: รองศาสตราจารย์ อังคณา  สายยศ, รองศาสตราจารย์นิภา ศรีไพโรจน์

การศึกษาครั้งนี้มีจุดหมาย เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิด 6 แบบ คือแบบหน่วย แบบจำพวก แบบความสัมพันธ์ แบบระบบแบบการแปลงรูป และแบบการประยุกต์กับความเข้าใจในการอ่าน และศึกษาค่าน้ำหนักความสำคัญของสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษา ในแต่ละผลการคิดที่ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่าน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ปีการศึกษา 2544 ในจังหวัดนครราชศรีมา จำนวน 830 คน ซึ่งเลือกมาโดยการสุ่มแบบสองขั้นตอน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมเอส พี เอส เอส ได้ผลการศึกษาค้นคว้าดังนี้

  1. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิด 6แบบ กับความเข้าใจในการอ่าน มีค่าเท่ากับ 0.657 ซึ่งสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  2. ค่าน้ำหนักความสำคัญของสมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิดแบบหน่วย แบบจำพวก แบบระบบ และแบบการประยุกต์ ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่สมรรถภาพสมองด้านการรู้และเข้าใจทางภาษาในผลการคิดแบบความสัมพันธ์และแบบการแปลงรูป ส่งผลต่อความเข้าใจในการอ่านอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ