งานวิจัย : การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาคุณภาพการบริการของห้องสมุด คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปริญญา  ขาวผ่อง (2551) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการอุดมศึกษา  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ได้ทำวิจัยเรื่องการศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาคุณภาพการบริการของห้องสมุด  คณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ทุกระดับการศึกษา  จำนวน 410 คน   ผลการวิจัยพบว่า  กลุ่มตัวอย่างมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมและเป็นรายด้านทุกด้าน (ได้แก่ ด้านผู้ให้บริการ  ด้านความน่าเชื่อถือของการบริการ  ด้านการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศ  ด้านลักษณะทางกายภาพ  และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก) ว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก  ส่วนการจัดลำดับความสำคัญความต้องการในการพัฒนาคุณภาพของการจัดบริการของห้องสมุด  พิจารณาจากค่าเฉลี่ยที่มีคะแนนต่ำสุด  พบว่า  มีประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ที่ควรนำไปปรับปรุงแก้ไข 4 รายการ  คือ 1) จำนวนร้านถ่ายเอกสาร  2) จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูล  3)  การจัดวางถังดับเพลิงในพื้นที่ที่มองเห็นได้ง่าย  4)  การแสดงออกทางสีหน้าของผู้ให้บริการ

ปริญญา  ขาวผ่อง.  (2551).  การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาคุณภาพการบริการของห้องสมุด  คณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การอุดมศึกษา).  กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.  คณะกรรมการควบคุม :  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุชาดา  สุธรรมรักษ์, อาจารย์ ดร.อรรณพ  โพธิสุข.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1) ศึกษาความคิดเห็นของนิสิตต่อการจัดบริการของห้องสมุดคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โดยรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน  คือ  ด้านผู้ให้บริการ  ด้านความน่าเชื่อถือของการบริการ  ด้านการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศ  ด้านลักษณะทางกายภาพ  และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก  2) เปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตต่อการจัดบริการของห้องสมุด  โดยรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน  จำแนกตามตัวแปรเพศ  ระดับการศึกษา  ภาควิชาที่ศึกษา  และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  3) เปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมและเป็นรายด้าน  4) จัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพบริการของห้องสมุด  กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้ประกอบด้วย  นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ทุกระดับการศึกษา  จำนวน 410 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล  ได้แก่  แบบสอบถาม  จำนวน 70 ข้อ  แบบสอบถามทั้งฉบับมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .89 

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  ค่าเฉลี่ย  ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และการทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว  และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่

ผลการวิจัยพบว่า 

1. นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมและเป็นรายด้านทุกด้านว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตต่อการจัดบริการของห้องสมุดคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โดยรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน  คือ  ด้านผู้ให้บริการ  ด้านความน่าเชื่อถือของการบริการ  ด้านการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศ  ด้านลักษณะทางกายภาพ  และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก  จำแนกตามตัวแปรเพศ  ระดับการศึกษา  ภาควิชาที่ศึกษา  และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  พบว่า
   • 2.1  นิสิตชายและนิสิตหญิงคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน  พบว่า  นิสิตชายและนิสิตหญิงมีความคิดเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดในด้านการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศ  และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก  แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  ส่วนด้านอื่นๆ ไม่พบความแตกต่าง
   • 2.2  นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับการศึกษาต่างกันมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวม  และเป็นรายด้านทุกด้านไม่แตกต่างกัน
   • 2.3  นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ที่ศึกษาในภาควิชาต่างกันมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมไม่แตกต่างกัน  และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า  นิสิตภาควิชาหลักสูตรการสอนและเทคโนโลยีมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดด้านการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศ  และด้านลักษณะทางกายภาพ  แตกต่างจากนิสิตในภาควิชาศิลปะดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา  นิสิตภาควิชานโยบาย  การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา  และนิสิตภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  ส่วนด้านอื่นๆ ไม่พบความแตกต่าง
   • 2.4  นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่างกันมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมไม่แตกต่างกัน  และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า  นิสิตที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสูงมีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดด้านลักษณะทางกายภาพ  และด้านสิ่งอำนวยความสะดวกแตกต่างจากนิสิตที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับต่ำ  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  ส่วนด้านอื่นๆ ไม่พบความแตกต่าง
3. นิสิตคณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีความเห็นต่อการจัดบริการของห้องสมุดโดยรวมและเป็นรายด้านทุกด้านว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 
4. การจัดลำดับความสำคัญความต้องการในการพัฒนาคุณภาพของการจัดบริการของห้องสมุด  พิจารณาจากค่าเฉลี่ยที่มีคะแนนต่ำสุด  พบว่า  มีประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ 3.50 ที่ควรนำไปปรับปรุงแก้ไข 4 รายการ  คือ 1) จำนวนร้านถ่ายเอกสาร  2) จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูล  3)  การจัดวางถังดับเพลิงในพื้นที่ที่มองเห็นได้ง่าย  4)  การแสดงออกทางสีหน้าของผู้ให้บริการ