งานวิจัย : การพัฒนาแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชาวเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
รัตนา สันยาย (2538) นักศึกษาปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำวิจัยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชาวเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชาวเขาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ 2) แบบทดสอบ 3) แบบสังเกตพฤติกรรม ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญที่มีประสิทธิภาพ สำหรับนักเรียนชาวเขาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30แบบฝึก 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญสูงกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ และเรียนโดยแผนการสอนปกติแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
รัตนา สันยาย. (2538).การพัฒนาแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชาวเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4.วิทยานิพนธ์ ศศ.ม.(การประถมศึกษา) เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ :ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรุณ กิ่งจันทร์, รองศาสตราจารย์วีณา วโรตมะวิชญ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุภวัฒน์ ชื่นชอบ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชาวเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชาวเขาที่เรียนโดยแบบฝึกกับนักเรียนชาวเขาที่เรียนโดยแผนการสอนปกติ รวมถึงการสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนชาวเขาที่เรียนโดยแบบฝึกนี้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชาวเขาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว ปีการศึกษา 2537จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญ 2) แบบทดสอบ 3) แบบสังเกตพฤติกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
-
ได้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญที่มีประสิทธิภาพ สำหรับนักเรียนชาวเขาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30แบบฝึก
-
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญหลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งแสดงว่าแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญสามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญได้
-
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญและเรียนโดยแผนการสอนปกติแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
-
พฤติกรรมของนักเรียนในการเรียนแบบฝึกนี้ พบว่า นักเรียนให้ความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเรียน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมกลุ่มและกิจกรรมรายบุคคล นักเรียนชอบที่จะเรียนแบบฝึกนี้ เพราะมีกิจกรรมการเรียนที่หลากหลาย