Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

คูปองซื้อหนังสือ ถึงมือเด็กด้อยโอกาส

      
             

             ด้านการศึกษา ช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลมีโครงการแจกอุปกรณ์การเรียน ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือให้แก่เด็กด้อยโอกาสอยู่หลายครั้งหลายครา แต่เมื่อปลายปี 2551กระทรวงศึกษาธิการได้แจกสิ่งที่แปลกกว่าทุกครั้งให้เด็กๆ นั่นคือ “คูปองซื้อหนังสือ”
             ด้วยตระหนักว่า นิสัยรักการอ่านไม่อาจเกิดขึ้นได้หากเยาวชนไม่มีหนังสือที่จะอ่าน และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองมหกรรมรักการอ่านซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2551 กระทรวงศึกษาฯ เลือกที่จะให้คูปองหรือเรียกให้หรูหน่อยว่า “เช็คของขวัญ” มูลค่า 300 บาทให้เด็กยากจนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพามาเที่ยวงานเพื่อนำไปซื้อหนังสือที่นำมาจำหน่ายภายในงาน และยังได้สนับสนุนงบประมาณให้บรรณารักษ์นำไปซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดโรงเรียนละ 10,000 บาทอีกด้วย
           ใช่แต่เพียงเด็กนักเรียนยากจนที่ไปเที่ยวงานมหกรรมรักการอ่านเท่านั้นที่ได้รับคูปองสำหรับชอปปิ้งหนังสือ  เดือนกรกฎาคมปี 2552 เด็กด้อยโอกาสในกรุงเทพฯ เช่น เด็กจากชุมชนกองขยะหนองแขม ชุมชนเพิ่มสิน มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก สถานคุ้มครองและฝึกอาชีพบ้านเกร็ดตระการ ได้รับคูปองแทนเงินสดสำหรับซื้อหนังสือคนละ 500 บาท จากโครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง เพื่อนำไปซื้อหนังสือในงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนครั้งที่ 7 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
            เด็กๆ จำนวน 300 คนที่ได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนและมูลนิธิต่างๆ ให้ได้รับคูปองซื้อหนังสือไปรายงายตัวกันตั้งแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น จากนั้นพี่ๆ จากมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยก็พาเด็กๆ ไปเดินเลือกซื้อหนังสือ โดยมีข้อแม้ว่าแต่ละคนต้องเลือกซื้อหนังสืออย่างน้อยคนละ 1 เล่มเพื่อมอบให้กับโรงเรียนอื่นๆ  
            ด.ญ.พรพนิต แทนรินทร์ ชั้นป.3 และ ด.ญ.ศศิ ประเสริฐศักดิ์ ชั้น ป.4 โรงเรียนวัดมงคลวราราม ซึ่งเป็นอาสาสมัครนักอ่านของโรงเรียนที่ได้รับคูปองซื้อหนังสือบอกว่าดีใจมากที่จะได้เลือกซื้อหนังสือเล่มโปรด  พรพนิตบอกว่า "หนูชอบหนังสือที่ให้ความรู้วิชาเลข ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ โดยใช้ภาพการ์ตูน อ่านง่ายๆ และสนุก”  ส่วนศศิบอกว่าเธอจะเลือกหนังสือที่ที่ภาพสีสวยๆ ส่งไปให้น้องๆ ที่โรงเรียนในภาคใต้
ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่คิดค้น “คูปองซื้อหนังสือ” ขึ้น เพราะมันเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้เป็นเจ้าของหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง
           การสำรวจในช่วงปี 2550-2551 พบว่าหนังสือกลุ่มเด็กและเยาวชนมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าตลาดรวมหนังสือ แต่คำถามก็คือ หนังสือเหล่านี้เดินทางไปถึงมือเด็กด้อยโอกาสมากน้อยแค่ไหน หากว่าไม่มีการสนับสนุนให้พวกเขามีโอกาสได้เลือกซื้อหนังสือเองบ้าง  รวมทั้งถ้าหากไม่มีการควบคุมราคาหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชนให้อยู่ในวิสัยที่เด็กและผู้ปกครองจะซื้อหาได้
           คูปองซื้อหนังสือใบละ 300 , 500 บาทที่หน่วยงานรัฐบาลและเอกชนแจกให้เด็กยากจนในช่วงงานออกร้านขายหนังสือประจำปีเหล่านี้ อาจมีมูลค่าเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายหนังสือโดยรวมของประเทศไทยซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบเกือบจะทะลุ 20,000 ล้านบาทในปี 2551
แต่มันเป็นบัตรผ่านประตูมูลค่ามหาศาลที่พาเด็กๆ ก้าวไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการอันไม่รู้จบของอาณาจักรตัวหนังสือ

 

ภาพจาก :http://narak.com/