Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

การเปรียบเทียบความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ปาริชาติ สุขประเสริฐ (2536)  นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการมัธยมศึกษา  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ได้ทำการวิจัยเรื่องการเปรียบเทียบความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู  กลุ่มตัวอย่างเป็นเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จังหวัดกรุงเทพมหานคร  จำนวน 70 คน  โดยกลุ่มทดลองได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ  กลุ่มควบคุมได้รับการสอนการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู  ใช้เวลาในการทดลอง 14 คาบ  คาบละ 50 นาที และใช้เนื้อหาเดียวกันผลการวิจัย  พบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะมีความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์และมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงขึ้น  และมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมตามคู่มือครู


ปาริชาติ สุขประเสริฐ.  (2536).  การเปรียบเทียบความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู.  ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.  คณะกรรมการควบคุม : ผศ.สุมานิน  รุ่งเรืองธรรม, ผศ.จันทิมา  พรหมโชติกุล.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์  และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู   กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพมหานคร  จำนวน 70 คน  ใช้แผนการวิจัยแบบ Randomized Control Group Pretest-Posstest Design  โดยใช้กลุ่มทดลองได้รับการสอนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ  กลุ่มควบคุมได้รับการสอนการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู  ใช้เวลาในการทดลอง 14 คาบ  คาบละ 50 นาที และใช้เนื้อหาเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  คือ  แบบทดสอบวัดความสามารถทางการเขียน เชิงสร้างสรรค์ และแบบสอบถามวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ t-test
ผลการวิจัยพบว่า  นักเรียนที่ได้รับการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะมีความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์  และมีแรงจูงใจ ใฝ่สัมฤทธิ์สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมตามคู่มือครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนที่ได้รับการสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะมีความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์และมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01