การเขียนเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
นิตยา สุดสวาท (2544) นักศึกษาปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำการวิจัยเรื่องการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนและการสอนปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 ห้องเรียน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 43 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 42 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดการสอนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยแต่ละ ชุดมีประสิทธิภาพตามลำดับดังนี้ ชุดการสอนที่ 1: การเขียนคำ 84.03/82.02, ชุดการสอนที่ 2: การเขียนประโยค 80.83/83.21, ชุดการสอนที่ 3: การเขียนข้อความ 86.27/85.24 และชุดการสอนที่ 4:การเขียนเรื่อง 80.71/84.05 2) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนปกติ
นิตยา สุดสวาท. (2544). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนและการสอนปกติ. วิทยานิพนธ์ กศ.ม (หลักสูตรและการนิเทศ). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.กาญจนา คุณารักษ์ ดร.มาเรียม นิลพันธุ์ สัมฤทธิ์ ไทยโพธิ์ศรี
การวิจัยเชิงทดลองครั้งนี้มิวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการสอนวิชาภาษาไทย เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร จำนวนสองห้องเรียน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ Random Control Groups – Pretest – Posttest – Design โดยให้ห้องเรียนหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 43 คน และอีกห้องเรียนหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุม จำนวน 42 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ชุดการสอน จำนวน 4 ชุด แผนการสอนสำหรับกลุ่มทดลอง แผนการสอนสำหรับ กลุ่มควบคุม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าทีแบบอิสระ(t – test independent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดการสอนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยแต่ละ ชุดมีประสิทธิภาพตามลำดับดังนี้ ชุดการสอนที่ 1: การเขียนคำ 84.03/82.02,ชุด การสอนที่ 2: การเขียนประโยค 80.83/83.21, ชุดการสอนที่ 3: การเขียนข้อความ 86.27/85.24 และชุดการสอนที่ 4:การเขียนเรื่อง 80.71/84.05
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนและการสอนปกติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 โดยนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนปกติ