Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

การอ่าน-รถด่วนขบวนเดียวกัน

   

การสร้างสังคมแห่งการอ่านนั้นไม่อาจและไม่จำเป็นที่จะต้องทำจากจุดๆเดียว หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น  ทุกภาคส่วนหรือแต่ละหน่วยย่อยของสังคมสามารถกระทำได้ และยิ่งจะเป็นการดี หากมีการร่วมมือร่วมแรง ประสานงานกัน
    เช่นที่กลุ่มละคร มะขามป้อม (มูลนิธิสื่อชาวบ้าน) อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ริเริ่มโครงการรักการอ่าน จนล่วงเข้าปีที่ 3   การปลูกต้นรักการอ่านในปีแรกนั้น เป็นการเข้าไปทำงานร่วมกับโรงเรียน ผ่านการจัดกิจกรรม เช่น ห้องสมุดมีชีวิต ทำห้องสมุดให้น่าอยู่ มีบรรยากาศเชื้อเชิญให้เด็กๆ มาอ่านหนังสือ  ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและให้เทคนิคกระบวนการต่างๆ กับคุณครูผ่านค่ายฝึกอบรม  รวมทั้งค่ายนักอ่านน้อยของเด็กๆ  เพื่อสร้างแกนนำ ทำหน้าที่อาสาสมัครรักการอ่าน  อ่านเอง ชวนเพื่อนอ่าน หรืออ่านให้น้องเล็ก ๆฟัง  จวบจนกระทั่งเห็นผลในคุณครู เด็กนักเรียน และได้รับความร่วมมือจากทั้งทางโรงเรียน เทศบาล หรือหน่วยงานราชการอื่น ๆ
    นอกเหนือจากการเข้าไปทำกิจกรรมในโรงเรียนแล้ว ย่างเข้าปีที่ 2 เกิดโครงการ บุ๊คไบท์ ติดตามมาด้วยบุ๊คแบงค์ โดยบุ๊คแบงค์คือคลังหนังสือหมุนเวียนในแต่ละโรงเรียนตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อแก้ปัญหาหนังสือน้อยหรือขาดแคลนในห้องสมุด  สำหรับบุ๊คไบค์เป็นรถพ่วงตู้หนังสือนิทานภาพขนาดย่อม วาดระบายสีสันสดใส  รถพ่วงมอร์เตอร์ไซค์บุ๊คแบงค์คันนี้ทำหน้าที่นำหนังสือนิทานที่อาจจะหายากและราคาแพงเกินไปสำหรับชาวบ้าน เดินทางไปพบเด็ก ๆ ตาม ร.ร  โดยมีพี่อาสาสมัครอ่านนิทานให้น้องฟังและชวนเล่นเกมสนุก ๆ   นอกจากนั้น บุ๊คไบท์ยังขยายไปบริการประชาชนตามที่ต่างๆ อีกด้วย  เช่น  ไปแวะจอดให้คนอ่านหนังสือที่มุมขายอาหารยามค่ำบริเวณที่ว่างหน้าธนาคารใจกลางเมือง  หรือกาดหมั้วครัวแลง หน้าตลาดค่ำที่ผู้คนมาจับจ่ายซื้อหาอาหาร รวมทั้งตามงานวัด งานเทศกาลต่างๆ  ก่อเกิดความกระตือรือร้นสนใจจากชาวบ้านและบรรดาผู้ปกครอง  โดยมีสีสันจากสื่อต่างๆ ที่มะขามป้อมถนัด เช่นหุ่นมือ ละครสั้นๆ หรือการเล่านิทานโดยมีอุปกรณ์ประกอบ    บุ๊คแบงค์ในปัจจุบันก็กำลังขยายพื้นที่ออกไป นอกจากจะหมุนเวียนหนังสือในโรงเรียน มีการนำไปวางตามร้านเสริมสวย  อาคารที่ฝึกสอนเทควันโด้เด็กๆ   และมีแผนที่จะขยายต่อไปยังโรงพยาบาล สถานีตำรวจ  สถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีประชาชนมารอรับบริการ  เพื่อให้เขาสามารถอ่านหนังสือฆ่าเวลา ได้ทั้งความเพลิดเพลินและเกิดประโยชน์
     เสมือนรถด่วนขบวนเดียวกัน  หากเราอยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการอ่านแล้ว  คงไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อำเภอ ผู้ปกครอง หรือว่าโรงเรียนเท่านั้น  เมื่อต่างเล็งเห็นประโยชน์ร่วมกันแล้วก็สามารถชักชวนกันทำ เสริมเรื่องหนังสือเข้าไปในขอบเขตและบทบาทของแต่ละคน  สร้างความร่วมมือได้ตั้งแต่ที่บ้าน ร.ร จนถึงระดับอำเภอเช่นนี้   รถคันที่จะพาเราไปสู่เป้าหมาย ย่อมเป็นขบวนเดียวเดียวกัน และเป็นรถด่วนที่ไปถึงเร็วไวอย่างแน่นอน

 

 

ภาพจาก :http://edfthai.org/