Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

การศึกษาความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนร่วม จากการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล (Universal Design of Instruction)

            กาญจนา โพธิ์ขำ (2555) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้ทำการวิจัยเรื่องการศึกษาความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนร่วม จากการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล (Universal Design of Instruction)กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 8 คน  ผลการวิจัยพบว่า  1) ความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กปกติหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลอยู่ในระดับดี 2) ความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลอยู่ในระดับดี 3) ความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กปกติหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลสูงขึ้น และ 4) ความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล

กาญจนา โพธิ์ขำ. (2555).  การศึกษาความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนร่วม จากการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล (Universal Design of Instruction).  วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การศึกษาพิเศษ).  นครราชสีมา : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.  อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์ โพธิสาร.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนร่วม หลังจากการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล และเพื่อเปรียบเทียบความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนร่วม ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ของโรงเรียนบ้านบ่อดิน อำเภอประโคนชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 จำนวน 8 คน ซึ่งมีเด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนร่วมกับนักเรียนปกติ จำนวน 3 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษที่ได้รับการตรวจวัดระดับสตปัญญาและวินิจฉัยทางการแพทย์จากนักจิตวิทยาของโรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ว่ามีระดับสติปัญญาปกติและบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่านจำนวน 2 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลุ และแบบทดสอบวัดความสามารถอ่านจับใจความ ใช้เวลาทดลอง จำนวน 6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยควอไลท์ สถิติที่ใช้ในการทดสอบ ได้แก่ The Sign Test for Median : One Sample และ The Wilcoxon Matched – Paris Signed Rank Test

ผลการวิจัยพบว่า
1. ความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กปกติหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลอยู่ในระดับดี
2. ความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลอยู่ในระดับดี
    3. ความสามารถอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กปกติหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากลสูงขึ้น
    4. ความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หลังการจัดการเรียนรู้การอ่านตามรูปแบบการสอนที่เป็นสากล