เรื่องการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน๊ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากลด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีพื้นฐานทางดนตรี และไม่มีพื้นฐานทางดนตรี
สันติ แก้วใจ (2553) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้ทำการวิจัยเรื่องการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน๊ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากลด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีพื้นฐานทางดนตรี และไม่มีพื้นฐานทางดนตรี กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 69 คน ผลการวิจัยพบว่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีสากลที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 75.67/78.70 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75 และคะแนนเฉลี่ยสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากล ของกลุ่มที่มีพื้นฐานทางดนตรีมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มไม่มีพื้นฐานทางดนตรีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
สันติ แก้วใจ (2553). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน๊ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากลด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีพื้นฐานทางดนตรี และไม่มีพื้นฐานทางดนตรี . วิทยานิพนธ์ ค.ม. (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา) นครราชสีมา : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา. อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : ผศ.ดร.สมศักดิ์ อภิบาลศรี.
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการอ่านโน๊ตดนตรี
สากล วิชาดนตรีสากลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และ 2) เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน๊ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากล ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างผู้ที่มีพื้นฐานทางดนตรีและไม่มีพื้นฐานทางดนตรี
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 69 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างในการหาประสิทธิภาพจำนวน 29 คน และเป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองจำนวน 40 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน กลุ่มทดลองที่ 1 เป็นกลุ่มที่รับการสอนปฏิบัติเครื่องดนตรีให้มีพื้นฐานทางดนตรีแล้วเรียนการอ่านโน๊ตดนตรีสากลด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มทดลองที่ 2 เรียนอ่านโน้ตดนตรีสากลบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน แผนการสอนปฏิบัติขลุ่ยรีคอร์เดอร์ และบททดสอบวัดผลทางการเรียนเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีสากล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่ามัชฌิมแบบเลขคณิตส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที แบบสองกลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน (t-test for independent groups) ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีสากลที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 75.67/78.70 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75
2. คะแนนเฉลี่ยสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีสากล วิชาดนตรีสากล ของกลุ่มที่มีพื้นฐานทางดนตรีมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มไม่มีพื้นฐานทางดนตรีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05