อวสานที่ทุกคนรอคอย”แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต”

ถึงมือนักอ่านชาวไทยแล้ว "แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต" เล่ม 7 ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายกับบรรยากาศส่งมอบหนังสือฉบับอวสานให้แก่ผู้จองเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา กับฤกษ์ 24.07 น.
ซึ่งถือเป็นวันใหม่แม้จะเลยเวลาเที่ยงคืน "มักเกิ้ลไทย" ตัวเล็กตัวน้อยก็ไม่ยอมแพ้ต่อแถวเคานท์ดาวน์รอซื้อหนังสือกันยาวเหยียด ตั้งแต่หัวค่ำนับพันๆ คน เป็นภาพที่ทำให้เกิดกระแสการอ่านที่คึกคักตั้งแต่เล่มแรกยันเล่มสุดท้ายนี้เลยทีเดียว
และจินตนาการก็ได้โลดแล่นออกมาจากตัวหนังสือในงานเปิดตัวฉบับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนานมีบุ๊คส์เนรมิตโรงเรียนฮอกวอตส์และจำลองฉากประทับใจจากเล่ม 1-7 ท้าทายนักอ่านให้ร่วมผจญภัยไปในโลกเวทมนตร์ พร้อมเปิดตัว สุมาลีบำรุงสุข ผู้แปลและเหล่าดารานักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันในงานนี้กันคับคั่ง
ความที่แปลแฮร์รี่มาแล้ว5 เล่ม เมื่อขึ้นเวทีพูดคุยจึงเต็มไปด้วยอรรถรส สุมาลี บอกเล่าว่า กว่าจะได้อ่านเล่ม 7 "Harry Potter And The Deathly Hallows" ซึ่งเธอถอดความเป็นภาษาไทยว่า "แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต" ก็เมื่อฉบับภาษาอังกฤษออกมาวางขายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 แล้วนั่นแหละ เพราะ เจ.เค.โรว์ลิ่งกลัวความลับเปิดเผยคนแปลนานาชาติจึงต้องรอคอยเหมือนกับผู้อ่านฉบับภาษาอังกฤษทั่วโลกและด้วยความเข้าใจหัวอกมักเกิ้ลชาวไทยทั้งหลายที่ใจจดใจจ่อรอคอยเล่มอวสาน สุมาลีจึงเร่งแปลทันทีที่นานมีบุ๊คส์ได้ลิขสิทธิ์ให้เป็นตัวแทนภาษาไทย
"อ่านจบแค่วันครึ่ง ดิฉันก็รีบโทรมาบอก บก.พรกวินทร์ ว่าสนุกเหลือเกิน สนุกมาก…ก" สุมาลีลากเสียงยาวบอกเล่าความรู้สึกฐานะคนไทยที่ได้อ่านจบเป็นคนแรก
แล้วเมื่อ ดีเจเอกกฤษณาวารินทร์ พิธีกรผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์บนเวทีถามว่า "แฮร์รี่ เล่ม 7 ความสนุกเริ่มต้นตรงไหน?" นักแปลรุ่นใหญ่ก็แจงว่าตั้งแต่บทแรกเลยทีเดียว "ตอนที่ 1 จอมมารเถลิงอำนาจ พ่อมดร้าย 'ลอร์ดโวลเดอมอร์' เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น ฉากแรกเปิดขึ้นมาด้วยตัวละคร 'สเนป' สมุนผู้เสพความตายเดินทางไปที่กองบัญชาการสูงสูงของโวลเดอมอร์เพื่อรายงานเกี่ยวกับความลับต่างๆ ของภาคีนกฟีนิกซ์ ทุกฉาก ทุกตอน ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำ แต่ความสนุกการแปลจึงไหลรื่น การเรียงร้อยก็เพลินไปกับคำศัพท์ คำสาปแช่ง เวทมนตร์ และมุกตลกต่างๆ ที่ เจ.เค.โรว์ลิ่ง เธอช่างสรรประดิษฐ์ขึ้นมา" สุมาลีกล่าว
สำหรับหนังสือภาคภาษาไทยแฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มอวสาน มีชื่อตอนว่า "แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต" สุมาลีกล่าวว่า ยากมากจะสรุปออกมาในชื่อนี้ "ดิฉันไม่เคยรู้จักศัพท์คำว่า 'แฮลโลว์ส-Hallows' มาก่อนเมื่อถามชาวอังกฤษก็ยังไม่มีใครรู้จักคำนี้เลย เพราะเป็นศัพท์โบราณซึ่งต้องเปิดดิกชันนารีฉบับคอลลินส์ สรุปได้ว่าHallows เป็นคำนามหมายถึง ของที่ยกย่องว่าศักดิ์สิทธิ์ เมื่ออ่านเรื่องจนจบจึงสรุปคำว่า 'ของขลัง' ปรากฏว่าแฟนพันธุ์แท้ทั้งหลายส่ายหน้าร้องยี้! บอกคำเก่ามาก!! ดิฉันจึงนิยามใหม่กับคำว่า 'เครื่องราง' หมายถึง วัตถุมงคลที่นับถือกัน ว่าช่วยให้ผู้ครอบครองรอดพ้นอันตรายและประสบโชคลาภและอีกคำที่ต้องแกะกันนานเมื่อโรว์ลิ่งเลือกใช้คำ 'Deathly' คำนี้ก็ไม่มีใครใช้มานานแล้วมาจากนิทานสามพี่น้องที่เล่าไว้ในเล่มก่อนๆ ที่ทั้งสามต้องไปเจอกับยมทูต ดิฉันจึงเลือกคำนี้ซึ่งเทียบเคียงเข้ากับเนื้อเรื่องมากที่สุด" สุมาลี กล่าว
และแฟนๆที่อ่านเล่ม 6 ในตอนท้ายโรว์ลิ่งทิ้งปริศนาไว้มากมาย ซึ่งจะมีการเฉลยครบถ้วนกระบวนความไม่มีเหลือให้คาใจในเล่ม 7 นี้แหละ!!
"ดิฉันสงสัยว่าน้องของ 'ดัมเบิลดอร์' หายไปไหน?'ทำไมไม่มางานของดัมเบิลดอร์?!!' คำตอบก็อยู่ในเล่ม 7 แล้วในเล่มนี้ 'ลูปิน' ครูแสนรักเตือนแฮร์รี่ว่า จะต้องเจอกับเวทมนตร์ชั่วร้ายมากขึ้น ซึ่งเขาก็อาสาช่วยแต่พระเอกของเราก็ใจเด็ดบอกว่า ครูใหญ่ดัมเบิลดอร์ได้สั่งเอาไว้ว่าคนที่จะแสวงหาฮอร์ครักซ์มีเพียง3 คน คือ แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และรอน เท่านั้น ทำให้ทั้งสามต้องไปเจอเวทมนตร์ที่น่าขนพองสยองเกล้ามากดิฉันแปลไปก็ร้อง อี๋ ขยะแขยงไปด้วย ลุ้นกันสุดๆ น่ากลัวมาก" สุมาลี บอกเล่า
นักอ่านฟังแล้วคงตื่นเต้น! สุมาลีแจงต่อไปอีกว่าจากเล่ม 5 แฮร์รี่วัยวุฒิยังน้อยก็มีนิสัยเอาแต่ใจ ซึ่งน่าหมั่นไส้มาก!! มาเล่มนี้เขาอายุ 17 ปีแล้ว ความเป็นคนรักเพื่อน เป็นคนดีมีน้ำใจได้แสดงออกมาเต็มตัว และที่สำคัญเขารอบคอบมากขึ้น "เครื่องรางยมทูตจะทำให้แฮร์รี่มีอำนาจมหาศาลและอาจมากกว่าโวลเดอมอร์ด้วยซ้ำไป แต่เขาต้องเลือกระหว่างไปตามหาเครื่องรางหรือไปตามหาฮอร์ครักซ์อย่างที่ดัมเบิลดอร์สอนไว้ ซึ่งนี่คือครั้งแรกที่แฮร์รี่ไม่ผลุนผลัน แฮร์รี่จะเลือกสิ่งใด ดิฉันอยากให้เยาวชนได้อ่านกันซึ่งนี่ก็คือจุดพลิกผันของเรื่องนี้" สุมาลีทิ้งปริศนา
อีกทั้งปริศนา"ร่วมไว้อาลัยให้กับ…ใครบางคนที่จากไป!!!" นักแปลคนเก่งบอกไม่ขอเฉลยอยากให้อ่านกันเอาเองแล้วแม้ชีวิตคนเราหนีไม่พ้นการพลัดพรากจากกัน แต่โรว์ลิ่งก็ไม่ลืม "ขนบ" ของวรรณกรรมเยาวชนอังกฤษ ที่จะไม่ทำให้เด็กๆ สิ้นหวัง ความตายอาจเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และนำมาซึ่งความหวังครั้งใหม่ และในท้ายเล่มนี้แฟนๆ ก็จะได้รู้จักลูกๆ ของแฮร์รี่กันอีกด้วย ใครอยากรู้ต้องไปที่แผงหนังสือกันแล้ว
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก