Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

‘อลินา’ โฉมหน้าใหม่ของ ‘กิ่งฉัตร’ ในโลกแห่งนวนิยายสืบสวน

 

                      
 
          ‘นัดพบนักเขียน’ ในฉบับนี้ เราขอเอาใจคอนวนิยายสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะนวนิยายสืบสวนสอบสวนแบบ Cozy 
ที่มีเนื้อหาเบา ๆ อ่านกันได้อย่างเพลิน ๆ สบาย ๆ 
          ผู้เขียนที่ ‘ออล แม็กกาซีน’ จะไปนัดพบในวันนี้ ท่านผู้อ่านอาจจะยังไม่คุ้นในนามปากกาของเธอสักเท่าไรนัก ซึ่งเธอ
ได้ใช้นามปากกา  ในงานเขียนนวนิยายสืบสวนสอบสวนของเธอว่า  ‘อลินา’  แต่ถ้าพูดถึงอีกนามปากกาหนึ่งของเธอที่เธอใช้
ในงานเขียนนิยายแนวรักโรแมนติค เห็นท่าผู้อ่านจะต้องร้อง ‘อ๋อ’ ไปตาม ๆ กัน นั่นก็คือ ‘กิ่งฉัตร’ 
          ใช่แล้วครับ ในวันนี้ ‘ออล แม็กกาซีน’  จึงขอเปิดเผยโฉมหน้าวรรณกรรมอีกสไตล์ของ ‘ กิ่งฉัตร’  ในภาคของผู้เขียน
นิยายสืบสวนสอบสวน ว่าเธอมีแรงบันดาลใจอย่างไรในการปลุกปั้นนวนิยายสืบสวนสอบสวนชุด ‘สาวน้อยเกวลิน’   นี้ขึ้นมา
 
all : ผู้อ่านมักจะคุ้นแต่นามปากกา ‘กิ่งฉัตร’ พอมาใช้นามปากกา ‘อลินา’ กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
อลินา : ในช่วงแรก  ไม่ได้บอกใครหรือเปิดตัวว่านามปากกานี้เป็นนามปากกาหนึ่งของเรา  ส่วนเรื่องการตอบรับของผู้อ่านนั้น
เป็นไปอย่างปกติค่ะ     แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า  รูปแบบการเขียนของแต่ละนามปากกานั้นไม่เหมือนกัน  คือนามปากกานี้
ไม่ได้เขียนนวนิยายแนวโรแมนติคหรือนวนิยายรัก  แต่จะออกแนวสืบสวนสอบสวนเบา  ๆ  กึ่ง  ๆ  คอเมดี้ที่เขาเรียกกันว่าแนว 
Cozy  อ่านสบาย  ๆ  ซึ่งตัวเด่นจะเป็นนักสืบมือสมัครเล่น  ไม่ได้เป็นอาชีพจริงจัง  ไม่ใช่การสืบสวนที่มีลักษณะของเลือดสาด
กระจาย
 
all : มีผู้อ่านสงสัยกันมาเยอะมากว่า ทำไมถึงใช้นามปากกาว่า ‘อลินา’ แล้ว ‘อลินา’ มีความหมายว่าอย่างไร
อลินา : ตอนนั้นเขียนเรื่อง ‘สูตรเสน่หา’ อยู่ นางเอกชื่อ ‘อลิน’ แล้วมีผู้อ่านท่านหนึ่งซึ่งได้คุยได้ติดต่อกันบอกว่า ชอบชื่อนี้
ก็เลยเอาไปตั้งชื่อลูกสาว    แต่ว่าขอเป็น   ‘อลินา’  คือเติมสระอาลงไปหนึ่งตัว   เพื่อทำให้ชื่อดูหวานขึ้น   รู้สึกว่าชื่อนี้เพราะดี 
จึงขอยืมมาจากเขาอีกทีหนึ่ง   มาเป็นชื่อลูกสาวนางเอกใน  ‘สูตรเสน่หา’  และพอมาเขียนนวนิยายชุดนี้  เกิดนึกนามปากกา
ไม่ออก อยู่ดี ๆ ชื่อนี้ก็ผุดขึ้นมา เลยนำมาเป็นนามปากกาเสียเลย
 
all : การจับปากกาเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนอย่าง ‘สาวน้อยเกวลิน’ มีความยากหรือง่ายอย่างไรบ้าง
อลินา : มันก็ไม่ได้ยากมาก เพราะว่าแต่ละตอนจะเป็นตอนสั้นๆ เป็นตอนที่จบเป็นชุด ๆ ไป แต่มันจะยากตรงที่ว่า เราต้องคิด
หาเหตุผลว่า ทำไมตัวละครถึงได้ทำสิ่งนั้นลงไปและเวลานำเสนอให้แก่ผู้อ่าน เราต้องคอยไกด์ให้ผู้อ่านบ้างคือหยอดไปนิดๆ
หน่อย  ๆ  เพื่อให้คนอ่านจับทางได้บ้าง ไม่ใช่พอจบตอนเสร็จ  เปิดตัวร้ายขึ้นมา  คนอ่านยังงงอยู่  เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อนว่า 
ตัวละครนี้มาจากไหน หรือว่าทำไมไม่เห็นมีวี่แววมาก่อนเลย อยู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา คือในบางครั้ง   บางเรื่องราวก็ควรจะให้
ผู้อ่านลองคาดเดาดู ถูกบ้างผิดบ้างไม่เป็นไร แต่บางทีมันต้องคิด   คิดว่าตรงนี้ต้องจับสังเกตเป็นพิเศษ  เพื่อที่จะดูว่าเรื่องราว
จะเป็นอย่างไรต่อไปและเพื่อดูต่อไปว่าความน่าจะเป็นของคนร้ายคือคนคนไหน มีเหตุและมีผล หรือแรงจูงใจอะไรให้ตัวละคร
ตัวนั้นทำแบบนี้   บางครั้งการอ่านนิยายสืบสวนสอบสวน   มันไม่ได้อยู่ที่ว่าใครเป็นคนร้าย   แต่มันอยู่ที่ว่าทำอย่างไร    และมี
เหตุผลอะไรในการกระทำสิ่งเหล่านั้น
 
all : การสร้างตัวละครอย่าง ‘สาวน้อยเกวลิน’ มีแรงบันดาลใจมาจากอะไร
อลินา : จำไม่ค่อยได้แล้ว   เขียนมานาน   (หัวเราะ)    ก็คือสร้างตัวละครขึ้นมาว่า   ถ้าเราจะหาตัวเอกสักตัวหนึ่งขึ้นมาสืบสวน
อย่างน้อยก็ต้องมีนิสัยสอดรู้สอดเห็นหน่อยหนึ่ง     มันถึงจะเข้ากับเรื่องราวได้   ต้องมีคนที่มีฐานความรู้พอที่จะคลี่คลายคดีได้ 
จริง ๆ แล้วถามว่า  อยากใส่บางข้อมูลไหม  ไม่ได้อยากใส่ แต่ว่าในแง่ของการสืบสวนของไทยไม่เหมือนกับของต่างประเทศ
เพราะเทคโนโลยีของเราสู้ไม่ได้ ระบบสังคมอะไรต่าง ๆ  เราไม่สามารถจะทำอย่างที่เขาทำได้  เพราะฉะนั้น บางกรณีเราต้อง
ใส่ข้อมูลบางอย่างเข้ามา เพื่อที่จะให้มันเหมาะและกลมกลืนไปกับสังคมไทยและสามารถปิดคดีได้
 
all : ถือว่ายากไหมครับกว่าจะสร้างตัวละครอย่างกลุ่มแก๊ง ก.ข.ค. ได้
อลินา : พอนึกและคิดเรื่องออกตัวละครก็จะออกมาโดยอัตโนมัติทันทีทันใดเลย พอเราตั้งตัวหลักขึ้นมาได้ ว่าเรามีตัวเอกตัวนี้ 
คนที่ล้อมรอบ      และจะเข้ามาช่วยกันสืบสวน    น่าจะมีใครบ้าง    มันจะมาพร้อมกันอัตโนมัติ    เป็นลำดับขั้นต่อกันมาเรื่อย  ๆ 
บางตัวละครในบางตอน อาจจะมีบทบาทมากหน่อย หรือบางตอนอาจจะไม่มีบทบาทเลยก็ได้
 
all : นิยายชุด ‘สาวน้อยเกวลิน’ กว่าจะเขียนจบแต่ละตอน ใช้เวลานานหรือเปล่า
อลินา : ไม่แน่ไม่นอนค่ะขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นไปได้เร็วขนาดไหนหรือว่าเรายุ่งขนาดไหน เพราะว่างานเขียนนี้เป็นงานที่เสริมขึ้น
มาจากงานประจำเขียนขึ้นมาเพราะว่าใจเรารัก เราชอบที่จะเขียน ซึ่งมันไม่ได้เป็นสิ่งแรกหรือหลักที่เราจะต้องทำ เหมือนเป็น
งานอดิเรกที่เสริมเข้ามาในงานอีกทีหนึ่ง  เพราะฉะนั้น  ถ้าอยู่ในช่วงที่ว่างและพร้อมที่จะลุย  ก็ลุยได้ยาวเลย แต่ถ้าบางช่วงติด
ก็คือต้องหยุดเพื่อที่จะไปทำงานประจำก่อน
 
all : กว่าจะได้เป็นนิยายชุด ‘สาวน้อยเกวลิน’ ในแต่ละตอน มีกระบวนการคิดอย่างไรบ้าง
อลินา : มันแล้วแต่  บางตอนก็ได้มาจากการดูข่าวที่มีความน่าสนใจ  มีอะไรที่สามารถนำมาคิดต่อยอดได้  เช่น  กรณีในข่าวนี้
น่าสนใจ     บางกรณีที่เขียนไปแล้วมีข่าวออกมาคล้าย  ๆ   กันก็มี   บางเรื่องก็เป็นเรื่องเล่าที่พูดคุยกับเพื่อนฝูง   มันแล้วแต่ว่า 
จังหวะนั้นจะได้มาจากจุดไหน    บางทีก็ปิ๊ง  ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ   เช่น   พูดคุยกับเพื่อนนิดเดียว    มันก็เป็นประเด็นขึ้นมาได้ 
อย่างเพื่อนบอกว่าสารชนิดหนึ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่คนเกือบทุกคนใช้ เธอบอกว่าเชื่อไหมว่า ครั้งหนึ่งในสมัยก่อน มันเคย
เป็นยาเบื่อหนู   ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่สูง  มันทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ปัจจุบันเรานำมาใช้ในชีวิตประจำวันโดยตลอด ในจำนวน
ที่น้อย  คือถ้าใช้น้อย  มันก็จะมีผลบวก   แต่ถ้าเกิดได้รับในปริมาณที่สูงเกิน มันจะทำให้ร่างกายมีปัญหา  พอเราฟังแล้ว  เราก็
 ‘อื้ม’ ได้พล็อตแล้ว  คือนิด ๆ หน่อย ๆ  ทุกอย่างมันเก็บเล็กผสมน้อย  คนโน้นไปงานแล้วก็เจอแบบนี้มาก็มาเล่า  จริง ๆ  แล้ว 
มันไม่มีฆาตกรรมหรอก    เพียงแต่ว่า  พอเขาเล่าเสร็จ   บางทีเราสามารถนำมาผูกเป็นพล็อตหรือเขียนเป็นฉากได้   แต่หนังสือ
หรือเรื่องราวสืบสวนสอบสวนในปัจจุบันข้อหนึ่งที่เขียนยากกว่าของต่างประเทศก็คือ‘การฆาตกรรม’ โดยส่วนตัวมีความรู้สึก
ว่าคนไทยฆ่ากันโดยมีการวางแผนน้อยมาก ส่วนมากถ้าจะฆ่าก็คือ เมา เมาหรือว่าทะเลาะกัน ควักปืนขึ้นมายิง เอามีดมาแทง  
แต่ถ้าจะให้คิดวางแผนเป็นลำดับ    เพื่อที่จะฆาตกรรม  ถือว่าน้อยมาก  เราไม่เหมือนกับต่างประเทศ   เราไม่มีฆาตกรต่อเนื่อง 
เราไม่มีฆาตกรโรคจิต   แต่ตอนนี้ส่วนตัวคิดว่ามันเริ่มมีบ้างแล้ว   แต่ถามว่ามีฆาตกรต่อเนื่องจริง  ๆ  จัง  ๆ     แบบของฝรั่งไหม 
เราไม่มี   เราไม่มีการวางแผนเป็นลำดับ    ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเยอะมากในการเขียนให้สมจริง    แต่ว่าไม่เกิดก็ดีนะ   (หัวเราะ) 
ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายเหมือนกัน  ว่าเราจะทำอย่างไรถึงจะนำเสนอออกมาแล้ว   ไม่ขัดกับความรู้สึกของผู้อ่าน     เพราะว่า
ของบ้านเรามันไม่มี
 
 
 
all : การผูกปมและคลี่คลายปมในนิยายชุด ‘สาวน้อยเกวลิน’ ในแต่ละตอน ถือว่าเป็นงานท้าทายไหม 
อลินา : ก็ยากอยู่นะ อย่างที่บอกว่า   หนังสือสั้น  และเราต้องคลายปมให้จบภายในความสั้นของหนังสือแต่ละเล่ม  แต่ถามว่า
ยาวได้ไหม ก็ยาวได้ เพียงแต่ว่า ดูเหมือนเนื้อหามันจะพอดี จบลงล็อคพอดีอยู่แล้ว ปิดเป็นคดีไป   เคยคิดว่าจะพยายามเขียน
ให้ยาวขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าการคลี่คลายปมยากไหม ยากพอดู   เพราะบางครั้งต้องหาวิธีคลี่คลายที่จะทำ
ให้ผู้อ่านยอมรับได้   ไม่ใช่จะให้ตัวละครนึกจะทำอะไรก็ทำ  คือไม่ใช่โคนัน  ที่ผู้เขียนรู้ตัวคนร้ายแล้ว  แต่ผู้อ่านยังไม่รู้อะไรเลย 
แต่คุณรู้คนเดียวแล้วคุณก็มาบอกรู้แล้วว่าฆาตกรคือใคร   จริง  ๆ   แล้วการเขียนหนังสือมันต้องค่อย  ๆ  ชวนผู้อ่านคิด   ทีละนิด 
ทีละนิดไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยมาเฉลยทีหลังให้รู้ว่า มีเหตุผลอย่างไร เป็นแบบนี้ได้อย่างไร
 
all : ‘สาวน้อยเกวลิน’ ตอนไหนที่เขียนแล้วรู้สึกว่าวางปากกาไม่ลง เขียนต่อเนื่องได้เรื่อย ๆ 
อลินา : ส่วนตัวแล้วที่รู้สึกสนุกน่าจะเป็นตอนที่ 3  ‘สาวน้อยเกวลิน ตอน คลั่งดารา’ เพราะว่าช่วงเวลาตอนที่เขียนเรื่องราว
เกี่ยวกับแมสเซจขึ้นมา  มันสนุก  คือได้ความคิดมาจากเวลาดูพวกการแข่งขันเรียลลิตี้ต่าง  ๆ  และจะมีคนทางบ้านแมสเซจมา 
บางทีอ่านไปอ่านมาแล้วรู้สึกว่า   เขากำลังตอบโต้กันเองอยู่ในแมสเซจเหล่านั้น  ดูแล้วรู้สึกว่ามันขำและตลกดี  เราก็เลยหยิบ
ตรงจุดนั้นมา และในตอนที่เขียน สนุกตรงที่คิดว่า คนที่ดูรายการพวกนี้แล้วส่งSMSเข้ามา กำลังพูด ทำ หรือคิดอะไรอยู่ถึงได้
ส่ง   SMS   เหล่านี้เข้ามาในรายการ    มันก็เลยรู้สึกสนุกและขำเวลาที่เขียนออกมา    คือบางช่วงถ้าเราอิน     และเราพร้อมไป
กับเรื่องราวเราก็สนุกในการเขียนบางช่วงที่มันจะเกิดการติดขัดมันก็ติดเหมือนกันหมดเขียนไม่ได้ ก็เขียนไม่ได้เหมือนกันหมด 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในสไตล์ไหนก็ตาม
 
all : ‘สาวน้อยเกวลิน’ เดินทางมาถึงเล่มที่ 4 แล้ว จะมี ‘สาวน้อยเกวลิน’ ตอนที่ 5 ตามมาหรือไม่ 
อลินา : ตอนแรกคิดไว้ว่า ‘มีแน่ ๆ’แต่ตอนนี้มัวแต่พะวงสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ (หัวเราะ) เล่มนี้ก็อาจจะช้านิดหนึ่ง ในความคิด
คือ เล่ม 5 จะพยายามออกให้ทันงานสัปดาห์หนังสือ แต่ว่าชักไม่แน่ใจแล้ว ตอนนี้ 50 : 50 ตอนแรก  70 : 30  แต่จะพยายาม
เข็นเล่มที่ 5 ออกมาให้ได้ค่ะ
 
all : แนวสืบสวนสอบสวนถือว่าเป็นแนวที่ถนัดหรือเปล่า
อลินา : ถามว่าถนัดไหม มันก็ก้ำกึ่งนะ แต่ถ้าถามว่าชอบไหม ชอบมากกว่า   คือเราก็ต้องเรียนถูกเรียนผิดไป  เขียนไป ก็ต้อง
ค้นคว้าศึกษากันอยู่เรื่อยๆ ต้องดูว่าแนวทางของคนอ่านนั้นเป็นอย่างไร คนอ่านนั้นคิดอย่างไร จับทางของเราได้ไหมทำเรื่อง
แบบนี้ได้ไหม     ยากเกินไปไหม     หรือง่ายเกินไปหรือเปล่า    ซึ่งมันมีเรื่องที่จะต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 
เพราะฉะนั้นถามว่าถนัดไหม พูดยาก แต่ก็ตอบได้ว่า ชอบเท่านั้นเอง
 
all : ในฐานะที่เป็นทั้งนักอ่านและนักเขียนหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน หนังสือประเภทนี้ให้อะไรแก่ผู้อ่าน
อลินา : ข้อแรกจริง  ๆ  ที่ให้คือ  ‘ให้ความบันเทิง’ เป็นแก่นหลักของหนังสือ  ส่วนเรื่องของสาระหรืออะไรต่าง ๆ มันจะแทรก
เข้ามาเองอยู่แล้ว  ขึ้นอยู่กับผู้อ่านว่าจะสามารถรับสารที่ผู้เขียนสื่อออกมาได้มากแค่ไหน   ถ้าถามความคิดส่วนตัว   คงตอบว่า 
‘บันเทิงเป็นหลัก สาระเป็นรอง’เพราะนี่คือเจตนาของ‘หนังสือเริงรมย์’ แต่ว่าบางทีเราสามารถสอดแทรกความคิด ไอเดีย
หรือว่าบันทึกเหตุการณ์ในช่วงหนึ่งของแต่ละช่วงลงไปในหนังสือได้ถ้าจะถามว่าให้อะไรแก่ผู้อ่านนี่แหละคือคำตอบตรงๆ เลย
หนังสืออาจจะไม่ได้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพียงแต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่บันทึกประวัติศาสตร์ไว้เท่านั้น
 
all : คิดว่าผู้อ่านจะได้รับอะไร เมื่ออ่านนิยายชุด ‘สาวน้อยเกวลิน’ จบ
อลินา : คือบางทีมันฝึกให้คนได้คิดนะ ถ้าเกิดไม่ได้อ่านไปเรื่อยๆแต่คุณคิดตามว่า เอ๊ะ ใช่ ไม่ใช่ มันก็คือความสนุกอย่างหนึ่ง
ได้ลองฝึกสมองและลองคิดแบบตรรกะ  คิดอย่างเหตุและผล   ว่าทำอย่างนี้ได้ไหม   ทำอย่างนั้นได้ไหม    เป็นไปได้ไหมที่จะ
เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้มากขึ้น แล้วก็บางครั้ง สิ่งที่เรานำเสนอไปเล็ก ๆ น้อย ๆ คนอ่านอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน  คือข้อมูล
ที่ใส่ลงไปบอกได้เลยว่า เราเป็น ‘ข้อมูลจริง’ ไม่ว่าจะเป็น พิษจากปลาปักเป้า หรือว่าเป็นพิษของไม้ยี่โถ
 
all : มีคำแนะนำอะไรอยากจะฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่อยากจะขึ้นมาเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนบ้าง
อลินา : จริงๆถ้ารักที่จะเขียนนะ ก็ลงมือเขียนเลย แล้วก็ศึกษารวมถึงอ่านให้มาก ดูวิธีการนำเสนอว่านักเขียนแต่ละคนมีวิธี
การนำเสนออย่างไร มีเทคนิคอย่างไรรวมถึงสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ หาสไตล์ของตัวเอง ถ้าเราจะเขียนหนังสือ เราก็ต้อง
หาสไตล์ของเราให้ได้   แล้วก็นำเสนอออกไป   แล้วบอกได้เลยว่า   ถ้าเทียบกับการเขียนเรื่องรักและเรื่องสืบสวน คนที่จะมา
เขียนสืบสวน  ต้องอดทนกว่าเยอะมาก   เพราะว่าตลาดของเรายังไม่ได้เปิดกว้างมากนะคะ    แล้วมันก็ต้องใช้เวลาที่จะทำให้
คนอ่านหันมาสนใจ เพราะเท่าที่เห็น มุมหนังสือประเภทนี้จะเป็นมุมเล็กๆภายในร้านเท่านั้น  ในอาณาจักรหนังสือที่กว้างใหญ่ 
เพราะฉะนั้น ถ้าจะเข้ามา ก็ต้องยอมรับตรงจุดนี้ว่านี่คือทำในสิ่งที่เรารักนะทำในสิ่งที่เราชอบนำเสนอในสิ่งที่เราพอใจที่จะทำ 
อย่าได้หวังผลสูงมาก
 
all : ได้อะไรจากการเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน 
อลินา : ความสุขในการเขียนค่ะ  อย่างที่บอกว่า  ตอนเริ่มต้นเขียนมีคนพูดเยอะมากเลย  บอกว่ามันไม่คุ้ม    คือถ้าเทียบในแง่
ของกระแสตอบรับ   หรือว่าในกระแสที่เราจะได้จากตรงจุดนี้   ถามว่า   มันน้อยมากไหม   มันน้อยมากเลย    แต่เรามีความสุข
ในการเขียน ในการนำเสนอในสิ่งที่เราชอบอีกแนวหนึ่ง คือไม่จำเป็นว่าเราต้องชอบหนังสืออยู่แนวเดียวใช่ไหมคะ แนวนี้ก็คือ
อีกแนวหนึ่งที่เราชอบ อ่านแล้วเรามีความสุขมากเลย เราอยากจะนำเสนอบ้าง เราก็เขียนสไตล์นี้ออกมา เพราะฉะนั้น สิ่งที่ได้
จริง ๆ คือ‘ความสุขในการเขียน’และถ้าคนอ่าน อ่านแล้วชอบมีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วยแต่ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะคะ
(หัวเราะ) ไม่ว่ากัน 
 
 
นัดพบนักเขียน : ยุทธชัย สว่างสมุทรชัย 
ภาพ: พศิน สาทสนิท
 
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : http://www.all-magazine.com