อมตะรักนักเขียน “ศิริวรรณ-ชาติวุฒิ”
เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่ "ชาติวุฒิ บุณยรักษ์" นักเขียนรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดเจ้าของผลงานเขียนเรื่องสั้นชื่อดังอย่างตำนานสุดท้ายไอ้มดแดง วันพิพากษา นาฏกรรมเมืองหรรษา ยังคงต้องพึ่งอาหารผ่านทางสายยาง เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หลังใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะตัวเอง 1 นัดในวันที่ 11 ต.ค.2553 กลายเป็นข่าวดัง และสร้างความสะเทือนใจให้กับวงการนักเขียนในช่วงนั้นไม่น้อย
แต่ใครจะทราบว่า เบื้องหลังเรือนร่างของคุณชาติวุฒิที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยภายในห้องเช่าเล็ก ๆ ย่านลาดพร้าว 81 กลับยังพบรอยยิ้มของเขาปรากฏอยู่ ความลับมาเฉลยเมื่อเราได้ทราบว่า เขายังมีภรรยาที่แสนดีอย่าง "กิ๊บ-ศิริวรรณ การงานอันวิจิตร์" คอยดูแล และเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมา
ในวันที่เสียงปืนลั่น!
ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ เมื่อคนรักเหนี่ยวไกปืนดังปัง! และทำให้ร่างของชายอันเป็นที่รักล้มลง คุณกิ๊บระบายความรู้สึกถึงภาพในวันนั้นให้ฟังว่า มันทำให้สมองตื้อไปชั่วขณะ กระทั่งมารู้ตัวอีกทีตอนมีคนมาเขย่าตัวแล้วบอกว่า "เขายังหายใจอยู่" เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปดู และพบว่าเขายังไม่ตาย
ลึกลงไปถึงเบื้องหลังการพยายามใช้ปืนยิงตัวตายของสามี คุณกิ๊บเล่าว่า สามีเป็นคนคิดมาก บวกกับมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย จนมาเริ่มมีอาการหนักขึ้นหลังย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ และเปิดร้านขายกวยจั๊บ
"เมื่อเปิดร้านมาได้สักพัก เขาก็เริ่มมีอาการนอนไม่หลับ ไปหาหมอก็พบว่าเป็นโรคเครียด ก็เริ่มกินยาเพื่อให้นอนหลับ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้บ่อยเข้า เขาก็เริ่มบ่นกับเราว่า อยากฆ่าตัวตาย เบื่อชีวิต และรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไร้ความสามารถ ซึ่งตอนนั้นก็ได้แต่ช่วยให้กำลังใจ และพาออกไปผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ออกกำลังกาย หรือให้เขาไปสังสรรค์กับเพื่อน"
กระทั่งถึงวันที่มัจจุราชเกือบมาพรากคุณชาติวุฒิไป วันนั้นเธอเล่าว่า สามีเกิดภาวะเครียดหนัก ซึ่งเธอก็ปล่อยให้นั่งดื่มสุราอยู่ในร้าน ส่วนปืนที่เห็นว่าพกติดตัวมาด้วยนั้น เธอก็ได้ยึดมาเก็บไว้กับตัวเรียบร้อยแล้ว แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง ในขณะที่เธอกำลังปลดลูกกระสุนออก สามีกลับเดินตรงเข้ามาแย่งปืนที่เหลือกระสุนอยู่ 1 ลูกไป และเสียงปืนก็ดังขึ้น
"ได้ยินเสียงปืนลั่น ตอนนั้นใจหายมาก ๆ กลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ปรากฏว่าเขาไม่เป็นไร แต่เดินกลับมาหาเราอีกครั้ง เพื่อมาค้นลูกกระสุนจากตัวเราไป แย่งกันไปแย่งกันมาเขาก็เอามันไปได้ ในขณะที่เราล้มลงกับพื้น พอหันจะลุกขึ้นยืนและสิ้นสุดเสียงว่า ไม่ เสียงปืนก็ดังขึ้นอีก 1 นัด และพบว่า เขายิงตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก" เธอเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่สร้างความสะเทือนใจให้กับเธอไม่รู้ลืม
หลังจากร่างชายอันเป็นที่รักถูกหามส่งโรงพยาบาล เธอถึงกับทรุด เพราะอาการหนักเข้าขั้นโคม่า ทั้งสมองบวม และมีเลือดออก โอกาสรอดถือว่ามีอยู่น้อยนิดมาก แต่เธอก็ไม่อนุญาตให้แพทย์ผ่าตัดสมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง แต่แล้ววันหนึ่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
"พอเข้าวันที่ 5 สมองเริ่มหยุดบวม ผ่านไปได้ 20 วันก็สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้ว สามารถกิน และถ่ายออกมาเองได้ แต่ก็ยังต้องดูกันต่อไปว่า ร่างกายสามารถตอบสนองได้ไหม พอผ่านไป 2 เดือนกว่า ๆ เขาก็สามารถตอบสนอง และรับคำสั่งได้บางส่วน เช่น ชูหนึ่งนิ้วได้ แต่ก็ยังไม่มั่นใจที่พากลับไปรักษาที่บ้านจนสามีติดเชื้อและต้องค้างเข็มไว้ 14 วันเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ ถ้าตรงไหนเกร็งจนเลือดเดินไม่ได้ ก็ต้องหาเส้นเลือดใหม่และทิ่มใหม่ เราทนเห็นเขาเจ็บแบบนั้นต่อไปไม่ได้ จึงตัดสินใจพากลับบ้าน" เธอเล่า
ด้วยอาการบาดเจ็บทางสมอง ทำให้คุณชาติวุฒิมีปัญหาเรื่องการดำเนินชีวิตแบบปกติ เรียกได้ว่า ทุกอย่างต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่โชคดีที่ "คุณกิ๊บ" ภรรยาสุดที่รักพร้อมสู้ไปพร้อม ๆ กับเขาด้วย
"กิ๊บ-ศิริวรรณ" ภรรยาหัวใจพยาบาล
"เคยมีคนบอกเหมือนกันว่า เฮ้ย ทิ้งไหมกิ๊บ ทิ้งก็ไม่ผิดนะ แต่กิ๊บทิ้งเขาไม่ลงค่ะ เราอยู่ด้วยกันมาก็ 5 ปีแล้ว อีกอย่างเขาไม่ใช่คนไม่ดี ถ้าเราทิ้งเขาไปแล้วกลับไปทำงาน เราจะทำได้เหรอ ไม่รู้สึกผิดเหรอว่าเราได้ทิ้งคนคนหนึ่งไป นอกจากนี้ กิ๊บยังมีคุณแม่ที่คอยบอกอยู่เสมอว่า กิ๊บทำถูกแล้วล่ะ เพราะถ้ากิ๊บทิ้งเขาไป แม่ก็ไม่สบายใจหรอก ทุกวันนี้คุณแม่จะคอยมาเยี่ยมกิ๊บ และพี่เป้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งกิ๊บรู้สึกว่า กิ๊บโชคดีที่มีครอบครัวเข้าใจ และอยู่เคียงข้างกิ๊บมาตลอด" นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เธอตัดสินใจไม่ทิ้งผู้ชายที่เธอรัก
1 วันของ "ภรรยา" หัวใจพยาบาล
สำหรับกิจวัตรในแต่ละวันของเธอในฐานะผู้ดูแลนั้น คุณกิ๊บจะดูแลคนรักในทุก ๆ เรื่อง ทั้งปั่นอาหาร ป้อนอาหาร พลิกตัวทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง รวมไปถึงการทำกายภาพบำบัดหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งเธอเล่าว่า
"กิ๊บจะชอบเปิดซีดีธรรมะฟังไปพร้อม ๆ กับพี่เป้ ซึ่งธรรมะช่วยให้กิ๊บเย็นลงมาก สอนให้เราอยู่กับปัจจุบัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วกิ๊บจะคิดเยอะ และเครียด ซึ่งเวลากิ๊บเครียดก็จะมีปัญหาในการดูแลพี่เป้ด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งคิดมากจนลืมตื่นขึ้นมาพลิกตัวให้เขา ตั้งแต่วันนั้น กิ๊บท่องไว้เสมอว่า ในเมื่อเราเลือกที่จะดูแลเขาแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด"
ถึงวันนี้ ทั้งคู่มีกันและกัน และเป็นกำลังใจให้กันตลอดเวลา แม้คุณชาติวุฒิจะยังไม่สามารถพูดคุยได้ แต่ก็เริ่มขยับแขน-ขาได้บ้างแล้ว ซึ่งอาการตอบสนองที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ความหวังของเธอดูชัดขึ้นอย่างน่าตื่นเต้น
"วันนี้แค่กิ๊บได้เห็นพี่เป้ดีขึ้น ตื่นมายิ้มด้วยกันทุกเช้า เท่านี้ก็มีความสุขมาก ๆ แล้วค่ะ ซึ่งกิ๊บต้องขอบคุณครอบครัวกิ๊บ รวมไปถึงน้ำใจจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของคุณเป้ทุกคนที่ช่วยในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะตัวกิ๊บเองไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากต้องคอยดูแลพี่เป้ทุก ๆ วัน ถ้าไปจ้างพยาบาลเราก็ต้องจ่ายเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งกิ๊บไม่ไหวหรอกค่ะ ดังนั้นกิ๊บยอมเหนื่อยที่จะดูแลเขาเองดีกว่าค่ะ" ภรรยาที่แสนดีในวัย 30 ปีเผย และเชื่อมั่นว่าสักวันสามีของเธอจะต้องกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้
ปิดท้ายกันด้วยแง่คิดชีวิตรักต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่คุณกิ๊บบอกไว้อย่างลึกซึ้งว่า ชีวิตรักคือการดูแลความรู้สึกของกันและกัน
"บางครั้งเราคิดว่าเราเอาใจใส่อะไรบางอย่างดีแล้ว แต่ในความเป็นจริง มันอาจจะยังไม่ดีพอก็ได้ ดังนั้น ในทุก ๆ วันที่คุณยังมีคนที่รักอยู่เคียงข้าง คงต้องถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า คุณได้ดูแลความรู้สึกของคนที่คุณรักดีพอแล้วหรือยังค่ะ"
*** ท่านที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 086-789-3039 หรือบัญชี "ศิริวรรณ การงานอันวิจิตร์ 218-204632-2 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสยามพารากอน"
ที่มา:
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000019959&#Opinion