ศุ บุญเลี้ยง…….หนังสือที่ชอบมีมากกว่าหนังสือที่เกลียด

“ผมอ่านหนังสือทุกวัน และอ่านทีละหลายๆเล่ม บางทีผมก็อยากเปลี่ยนตัวเอง เช่นอยากอ่านทีละเล่ม แต่ทำไม่สำเร็จ”
นี่คือพฤติกรรมการอ่านหนังสือของ ศุ บุญเลี้ยง เมื่อแรกที่บอกว่าต้องการสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับหนังสือที่ชอบ 5 เล่ม ศิลปินนอนเปลที่คิดไม่เหมือนใครท่านนี้ถามกลับว่า ขอเป็น “หนังสือที่เกลียด” ได้ไหม เพราะหนังสือที่ชอบมีเยอะมาก แต่หนังสือที่เกลียดมีน้อยพอที่ยกตัวอย่างได้
“อย่างมากเราก็แค่ไม่ชอบ แต่อย่างนี้เราเกลียด เราเกลียดความคิดแบบนี้ เราเกลียดการนำเสนอแบบนี้ เช่น เกลียดหนังสือ ททท.เล่มหนึ่ง เขามาสัมภาษณ์นักเขียนแล้วเอาไปลง เสมือนว่าเป็นนักเขียนคนนั้นเขียน”
เขาเกลียด แฉชีวิตนักเรียนนอก และเกลียดหนังสือที่ขึ้นปกว่า “โรเบิร์ดฟูกัมเมืองไทย” แม้ไม่รู้จักคนเขียนแต่ก็เกลียด ซึ่งผู้เขียนอาจจะน่ารักก็ได้ ไม่ได้เกลียดแบบอาฆาต
“เกลียดหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “รวยด้วยขี้” เพราะข้างในมีเรื่องรวยด้วยขี้เรื่องเดียว ที่เหลือรวยด้วยอย่างอื่น เขาไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้”
ถึงกระนั้นศุ บุญเลี้ยงก็มีหนังสือที่ชอบเหมือนกัน ดังนี้
หนังสือที่ชอบมีเยอะ แต่ก็อยู่ที่ช่วงเวลา อย่างช่วงนี้สอนคนเขียนหนังสือ ฉะนั้นหนังสือที่ผมสนใจมากหน่อยก็จะเกี่ยวข้องกับการสอน เช่น “เขียนนิยายให้ขายดี” ของสตีเฟน คิงก์ อ่านแล้วสนุก เป็นคำแนะนำที่ดีเหมาะกับนักเขียนที่อยากจะเขียนหนังสือ
“บันทึกความสำเร็จ” ของ G. KINGSLEY WARD เป็นผลสืบเนื่องมาจาก “สอนลูกให้ดี”และ “เศรษฐีสอนลูก” เล่มหนึ่งสอนลูกผู้ชาย เล่มหนึ่งสอนลูกผู้หญิง แต่เล่มนี้เขาเขียนบันทึกความสำเร็จของเขาว่าเขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยังไง เขาเป็นนักธุรกิจ แต่เขียนหนังสือให้ลูกอ่านเพราะเขาพูดกับลูกแล้วลูกไม่เชื่อ แต่เขาเคยเขียนจดหมายให้ลูกแล้วลูกเชื่อ เขาจึงรู้สึกว่าการเขียนมีพลังมากกว่าการพูดของเขา ฉะนั้นเวลาสอนลูกเขาจึงเขียนหนังสือสอน สอนลูกให้ดี แต่เดิมคือ สอนลูกให้รวย ซึ่งมันอาจจะไปขัดกับความเชื่อของคนไทยสมัยก่อน ที่รู้สึกว่าการสอนลูกให้รวยมันไม่ดีมั้ง ตอนหลังก็เลยเปลี่ยน
“จิ๋วแต่แจ๋ว :เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ (SMALL IS BEAUTIFUL)” ของ อี.เอฟ.ชูเมกเกอร์ ก็เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ อ่านแล้วทำให้รู้จักความคิดของผู้เขียน ว่าเป็นนักคิดที่น่าสนใจ เขาเป็นคนที่ทำงานเกี่ยวกับการเงินหรือธุรกิจ เขาถูกส่งมาที่พม่า เขาก็เลยมาเจอความเชื่อในเชิงศาสนาพุทธ จึงเอาเศรษฐศาสตร์กับพุทธมาผสมกัน แล้วสร้างงานความเชื่อจิ๋วแต่แจ๋วออกมา
สัญญาสี่ประการ(THE FOUR AGREEMENTS) ของDON MIGUEL RUIZ นักเขียนสเปน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล ผมไปเจอในซอกหลืบที่ร้านแพร่พิทยา ตอนนั้นใกล้ๆปีใหม่ผมรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง คิดว่าปีหน้าจะทำอะไรดี เจอหนังสือเล่มนี้ก็คิดว่าแปลกดี คนเราเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยสัญญาแค่ 4 ข้อเอง แล้วถ้าเราเปลี่ยนตัวเองแค่ 4 ข้อ โลกรอบตัวเองก็จะเปลี่ยนไป เป็นสี่ข้อที่ง่าย ๆ แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะทำมันได้ ผมว่าถ้าเราทำมันได้ก็ได้ผล
สัญญาสี่ข้อที่ว่าคือ ข้อหนึ่งวาจาบริสุทธิ์ การพูดสำคัญมากในชีวิต การพูดไม่ใช่แค่เสียงที่หลุดจากปาก การพูดเป็นพลัง เขาคิดว่าคนที่พูดอย่างบริสุทธิ์ จะทำให้คนนั้นเปลี่ยนไป โลกรอบข้างก็จะเปลี่ยนไป พูดให้คนอื่นตกต่ำก็ได้ พูดให้คนอื่นรู้สึกดีก็ได้
สองอย่าถือว่าเป็นเรื่องของเรา เกิดอะไรขึ้นก็ตามอย่าถือว่าเป็นเรื่องของเรา เช่นมีคนบอกว่านายอ้วนเป็นหมูเลย ก็ไม่ต้องถือว่าเป็นเรื่องของเรา ไม่ว่าใครจสรรเสริญหรือตำหนิก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องของเรา มันพูดง่าย แต่ทำยาก สร้างภูมิคุ้มกันให้เรา
ข้อสามอย่าคาดคะเน อย่าไปคิดว่าจะไปเปลี่ยนคนอื่น ข้อสี่ทำให้ดีที่สุด
มันมาในจังหวะที่เราต้องการเปลี่ยนตัวเอง หนังสือที่ชอบมีเยอะแต่นี่คือหนังสือที่มาถูกเวลา
สำหรับนิยายที่ชอบก็มีแต่มันเยอะไปจนนึกไม่ออก เรื่องหนึ่งคือ “วันอังคารกับครูมอลลี่” นิยายที่เอาความจริงมาเขียนเป็นเรื่องที่ดี ผู้ชายคนหนึ่งเห็นครูคนเก่าของเขากำลังป่วยในโทรทัศน์ เขาจึงคิดว่าจะไปเยี่ยมครูเขา จึงได้คุยกับครูอีกครั้งหลังจากที่เคยสอนตอนเด็ก เขาสอนชีวิต เหมือนการทำวิทยานิพนธ์อีกครั้งเกี่ยวกับชีวิต เกี่ยวกับโลก เขาไปเยี่ยมครูทุกวันอังคาร จนครูเขาตายและเขาก็ได้หนังสือมา อีกเล่มหนึ่งของเขาคือ “คนห้าคนที่คุณพบบนสวรรค์” คุณเคยเปิดหนังสือมาแล้วเจอตอนจบเลยไหม นี่คือหนังสือเล่มนี้ เขาเก่ง
หนังสือไทยก็มี “สุธีเสมอ” ชอบไปหมดแหละ คนชอบอ่านหนังสือ ขึ้นอยู่กับว่าคุณมาถามวันไหน ผมอยู่ในช่วงอารมณ์อะไร อย่างถ้าผมไม่สบายผมอ่าน “ชีวิตรื่นรมย์” ของคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผมก็รู้สึกรื่นรมย์ แต่ถ้าผมอ่าน “ผมขอใช้สิทธิ์ที่จะตาย” ก็จะไม่รื่นรมย์ มันขึ้นอยู่กับเวลาด้วย
นักเขียนที่ผมชอบมากๆ ผมอ่านทุกเล่มแล้วชอบหมด ชื่อแดง ไบเล่ เขียนอะไรมาผมชอบหมด ผมไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยเห็นเขาให้สัมภาษณ์อะไรที่ไหนเลย ชอบความคิด และวิธีการนำเสนอ แปลกๆ หนังสือแต่ละเล่มก็จะมันๆ คนอื่นจะไม่เขียนอย่างนี้
ขอบคุณเรื่องราวดีๆโดยนาย อยู่ดี จาก http://www.praphansarn.com