Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

ผลการใช้สื่อประสมที่ใช้หลักการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

            วนิดา เสลานอก (2553)  นักศึกษาปริญญาโท  สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา  มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา  ได้ทำการวิจัยเรื่องผลการใช้สื่อประสมที่ใช้หลักการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 120  คน  ผลการวิจัยพบว่าสื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 77.01/78.21 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75 และผลสัมฤทธิ์การใช้สื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่ากลุ่มควบคุมที่เรียนโดยการเรียนโดยวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

วนิดา เสลานอก.  (2553). ผลการใช้สื่อประสมที่ใช้หลักการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา)  นครราชสีมา : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา.  อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : รศ.ดร.รสริน พิมลบรรยงก์ (ประธานกรรมการ) และ ผศ.สุเทพ อ่อนระดับ (กรรมการ).
 
    การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสื่อประสมที่ใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning) ในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างการสอนโดยใช้สื่อประสมที่ใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานกับการสอนโดยวิธีปกติ
    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนหนองบัวแดงวิทยา จำนวน 120 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย และแบ่งกลุ่มสำหรับหาประสิทธิภาพสื่อประสมจำนวน 40 คน และกลุ่มทดลอง 80 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่ใช้สื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกลุ่มควบคุมที่ใช้การสอนแบบปกติ กลุ่มละ 40 คน
    เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ สื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
    ผลการวิจัยพบว่า
    1. สื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 77.01/78.21 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75
    2. ผลสัมฤทธิ์การใช้สื่อประสมใช้หลักการของการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่ากลุ่มควบคุมที่เรียนโดยการเรียนโดยวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05