นักเขียนซีไรต์ ปี 2546 หนังสือ “ช่างสำราญ”

เดือนวาด พิมวนา เป็นนักเขียนจากจังหวัดชลบุรี เรื่องสั้น “ผู้บรรลุ” ของเธอที่ลงตีพิมพ์ในช่อการะเกด ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น และเรื่องสั้นเรื่องดังกล่าวได้รับทั้งเรื่องสั้น “ยอดเยี่ยม” และ “ยอดนิยม” สำหรับเดือนวาดเคยมีผลงานรวมเล่ม รวมเรื่องสั้น “หนังสือเล่มสอง” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สามัญชน โดยมีเวียง วชิระ บัวสนธ์ เป็นบรรณาธิการ และผลงานงานหนังสือ "ช่างสำราญ" ได้รางวัลซีไรต์ สาขาเรื่องสั้น ปี 2546
รู้สึกอย่างไรบ้างหลังจากได้รับรางวัล
จริง ๆ ก็ดีใจ แต่พยายามไม่อะไรกับมันมาก ประเดี๋ยวจะเพริด ลืมว่าเรายังต้องทำงาน ลืมว่าจริง ๆ เราเพิ่งทำงานไปได้ไม่มาก ย่างก้าวเรายังไม่ได้ไปไกลสักเท่าไหร่ เรายังต้องทำงานอีกเยอะ ซีไรต์มันไม่ใช่จุดจบ
แล้วตอนนี้รางวัลที่ได้มีผลอะไรกับชีวิตข้างหน้าหรือเปล่า
คงจะไม่มี ก็แค่ทำงานต่อไป สร้างพัฒนาการในเนื้อหาให้ได้เท่านั้น เพราะเค้าก็ไม่ได้มาช่วยเราทำงานอยู่ดี ก็ถือเป็นกำลังใจ แต่ว่าในแง่ของสังคมที่จะตอบรับกับงานของเรา เค้าอาจจะให้การตอบรับเราดีขึ้น ทำนองว่าอาจจะให้ค่าเรื่องเราเพิ่มขึ้น อะไรอย่างนี้ ตัวเราก็คงไม่มีอะไร ก็ยังคงทำงานต่อไป
แล้วต้องไปพูดตามที่ต่าง ๆ หรือเปล่า
ก็คงมีเข้ามา แต่ว่าคงจะจัดเวลาช่วงหนึ่งตามพอเหมาะ คงไม่ให้เกินไป แล้วก็ไม่ให้ยืดเยื้อ เดี๋ยวเราจะมาอยู่ตรงนี้จนเสียงาน
แสดงว่าตอนนี้ก็ยังมีงานอยู่ด้วย
ช่วงนี้ก็วุ่นวาย เพราะต้องเขียนเรื่องสั้นด้วย ปกติก็ไม่ค่อยมีเวลาเขียนอยู่แล้ว คิดแต่ละตอนก็เฉียดฉิว ส่งต้นฉบับเกือบไม่ทันอยู่แล้ว เพราะมันไม่ได้เป็นแบบคอลัมนิสต์ แบบบทความ มันมีพล็อต มันเป็นเรื่องสั้น ตอนนี้ก็พยายามเปลี่ยนรูปแบบใหม่ กำลังพยายามคิดพล็อต เราใช้ในลักษณะของกระแสสำนึกล้วน ๆ คือมันต้องสั้น แล้วต้องให้มันได้ใจความในความสั้นตรงนั้น แต่ยังไงมันก็เป็น fiction ไม่ใช่ความเรียง มันก็เหนื่อยนะ เพราะมีนิยายที่ทำค้างอยู่ที่ไม่ได้ต่อเลย
แล้วนิยายที่ค้างอยู่ มีข้อจำกัดอะไรกับใครบ้าง
ก็กับตัวเราเอง เพราะเราก็ไม่ได้รีบร้อนไปไหน แต่กำลังอินกับงาน กับพล็อต เพราะปกติเวลาเราทำงานชิ้นนึง เราจะติดกับมันตลอด จะไม่ไปทำงานที่ไหนเลย ขึ้นอยู่กับชิ้นนั้น เพราะฉะนั้นวิธีการเขียนประจำ เราเริ่มทำนิยายไว้แล้ว พอมาเขียนประจำ ตอนแรกว่าจะเอานิยายลงประจำ แต่ว่ามันเป็นนิยายที่รูปแบบไม่เหมาะ แล้วก็ไม่อยากเขียนความเรียง หรือบทความ อยากทำ fiction หรือวรรณกรรม เป็นเรื่องสั้น ๆ มากกว่า ก็คิดว่าสักระยะเราคงต้องหยุด เพื่อให้ได้เนื้องาน แล้วก็เขียนนิยายให้เสร็จ
เพราะเวลาเขียนนี่มันต้องให้จบในตัวเองใช่ไหม
ก็เหมือนกับพล็อตสั้น ๆ เหมือนกัน มันต้องมีความลงตัว มีความสนุก ไม่ใช่อ่านตอนนี้เพื่อให้ไปสนุกตอนหน้า
มันเป็นสไตล์หรือเปล่า คือเห็นว่าพี่จะพูดเรื่องที่เราเก็ทกัน เรื่องที่เราเดินผ่าน เรื่องที่เราอยู่
ถ้าประเด็นที่ทำไปแล้ว จะไม่ทำซ้ำ ควรจะหนีไปเลย แล้วก็รูปแบบการนำเสนอด้วย ยังไงเราก็เป็นคนเขียน พี่คิดว่าให้มันเป็นสไตล์ของเรา ถ้าออกมาโดยไม่ตั้งใจ นั่นแหละมันคือสไตล์ของเราจริง ๆ เพราะถ้าเราตั้งใจให้เกิดรูปแบบลักษณะเฉพาะขึ้นมา พี่ก็คิดว่ามันก็ไม่ได้เป็นเอกลักษณ์นะ
ความจริงอยากจะถามผู้อ่านว่า อ่านงานของเราแล้วมองเห็นเอกลักษณ์เราเป็นอย่างไร อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นงานของเดือนวาดไหม เพราะเวลาเราทำงานแบบนั้นบ้าง แบบนี้บ้าง บางทีสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : นิตยสาร YES