ดูโลส: ร้านหนังสือลอยน้ำ
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจเป็นไปอย่างดุเดือด ร้านหนังสือต่างพากันจัดกิจกรรมสารพัดแบบเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่สำหรับร้านหนังสือที่ชื่อว่า เอ็มวี ดูโลส ยุทธวิธีส่งเสริมการขายใดๆ ก็ไม่จำเป็น เพราะลำพังแค่เป็น “ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ก็เชิญชวนผู้คนให้มาเยือนมากมายอยู่แล้ว
เรือดูโลส (MV Doulos) บรรทุกเอาหนังสือกว่า 500,000 เล่ม ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ พร้อมด้วยอาสาสมัครและลูกเรือชาวคริสเตียนกว่า 300 ชีวิตเดินทางไปยังประเทศต่างๆ รอบโลก เพื่อขายหนังสือดีๆ ราคาย่อยเยาให้ลูกค้าที่ตั้งตาคอยการเดินทางมาถึงของร้านหนังสือลอยน้ำดูโลส
เรือลำนี้สร้างขึ้นเมื่อค.ศ.1914 (พ.ศ. 2457) ชื่อเดิมว่า เอส เอส เมดินา ทำหน้าที่ขนส่งหัวหอมจากนิวยอร์กไปรัฐเท็กซัส ชื่อของเรือถูกเปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนมาเป็น “ดูโลส” ซึ่งเป็นภาษากรีก แปลว่า “ผู้รับใช้” สอดคล้องกับภารกิจของเรือ ที่นอกจากจะหอบหนังสือข้ามน้ำข้ามทะเลไปหาผู้คนแล้ว ยังมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เช่น บริจาคหนังสือ ยารักษาโรค และพาลูกเรือไปซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างในชุมชนที่ต้องการอีกด้วย
ตอนนี้เรือดูโลส ซึ่งได้รับการบันทึกจากหนังสือกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นเรือโดยสารทางทะเลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อยู่ในความดูแลขององค์กรสาธารณกุศลชื่อ Good Books for All ประเทศเยอรมนี
หนังสือที่มีขายบนเรือมีทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่วิทยาศาสตร์, กีฬา, งานอดิเรก, ตำราอาหารและขนม, ศิลปะ, การบริหารการจัดการ, นวนิยาย, หนังสือสำหรับเด็ก นอกจากนี้ยังมีซีดีเพลง อุปกรณ์เครื่องเขียนและของที่ระลึกของร้านหนังสือลอยน้ำที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้
เรือดูโลสเดินทางมาเยือนเมืองไทยครั้งแรกในปี 2530 ซึ่งครั้งนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังร้านหนังสือลอยน้ำแห่งนี้ ปี 2544 ดูโลสมาเยือนอีกครั้งและครั้งนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จพระดำเนินมาเยี่ยมชม 5 ปีต่อมาคลังหนังสือเคลื่อนที่ก็มาเมืองไทยอีกในปี 2549 และครั้งล่าสุดที่ดูโลสมาเทียบท่าที่ท่าเรือคลองเตย คือ 30 กรกฎาคม – 23 สิงหาคม 2552 คาดว่ามีคนไทยเข้าเยี่ยมชมเรือดูโลสแล้วกว่า 60,000 คน
คุณูปการที่แท้จริงของดูโลสคงไม่ได้อยู่ที่ความเป็นร้านหนังสือ เพราะในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ไม่ได้ขาดแคลนร้านหนังสือ (การสำรวจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนร้านหนังสือในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คือ จาก 676 ร้านในปี 2546 เป็น 1,913 ร้านในปี 2550) แต่อยู่ตรงที่เรือหนังสือลำนี้สร้างความรู้สึกรักร้านหนังสือและอยากเข้าร้านหนังสือให้เกิดขึ้นในใจของผู้คน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน
ความรู้สึกดีๆ ต่อร้านหนังสือ ย่อมนำไปสู่ความสนใจในหนังสือและสร้างนิสัยรักการอ่านหนังสือในที่สุด ขณะที่กิจกรรมของอาสาสมัครและลูกเรือนั้นก็ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสุขและสนุกจากการทำประโยชน์เพื่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน
ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงรอคอยการกลับมาของดูโลส.
ภาพจาก :http://play.kapook.com