งานวิจัย : อิทธิพลของหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่มีต่อความสนใจ การตีความ และความเชื่อถือของผู้อ่าน
กฤตินี ประชาบาล(2538) นิสิตปริญญาโท สาขาการหนังสือพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานวิจัยเรื่อง อิทธิพลของหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่มีต่อความสนใจ การตีความ และความเชื่อถือของผู้อ่าน และเพื่อทดสอบอิทธิพลดังกล่าวที่มีต่อผู้อ่านที่มีปริมาณการอ่านข่าวและอุปนิสัยการอ่านหนังสือพิมพ์แตกต่างกัน ผู้วิจัยได้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนิสิตระดับปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 168 คน จาก 9 คณะ โดยผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างหลายขั้นตอนผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างอ่านและขีดเส้นใต้ข้อความที่อ่าน เพื่อวัดความสนใจของผู้อ่านขณะกำลังอ่านข่าวที่พาดหัวข่าวกำกวมไม่ถูกต้อง เกินจริง และถูกต้องซึ่งจัดทำขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ขนาดแท็บลอยด์ จากนั้นผู้วิจัยได้ให้กลุ่มตัวอย่างตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและความเห็นเกี่ยวกับข่าวที่อ่านเพื่อวัดการตีความและให้กลุ่มตัวอย่างกาเครื่องหมายพื่อวัดความเชี่อถือ จากการทดสอบสมมุติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 พบว่าหัวข่าวกำกวมและเกินจริงทำให้ผู้อ่านสนใจติดตามเนื้อข่าวที่ตามมามากกว่าหัวข่าวที่ไม่กำกวมและไม่เกินจริงในเนื้อข่าวเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนหัวข่าวถูกต้องและไม่ถูกต้องไม่ทำให้ผู้อ่านให้ความใจอ่านข่าวแตกต่างกันใ นทำนองเดียวกันพบว่าหัวข่าวกำกวม ไม่ถูกต้องและเกินจริงไม่ทำให้ผู้อ่านตีความและให้ความเชื่อถือเกี่ยวกับข่าวที่อ่านแตกต่างจากหัวข่าวไม่กำกวม ถูกต้อง และไม่เกินจริงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
กฤตินี ประชาบาล. (2538). อิทธิพลของหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่มีต่อความสนใจ การตีความ และความเชื่อถือของผู้อ่าน. วิทยานิพนธ์ น.ม. (การหนังสือพิมพ์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อาจารย์ที่ปรึกษา:ดร.ดวงกมล ชาติประเสริฐ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของหัวข่าวหนังสือพิมพ์ที่มีต่อความสนใจ การตีความและความเชื่อถือของผู้อ่าน และเพื่อทดสอบอิทธิพลดังกล่าวที่มีต่อผู้อ่านที่มีปริมาณการอ่านข่าวและอุปนิสัยการอ่านหนังสือพิมพ์แตกต่างกัน ผู้วิจัยได้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนิสิตระดับปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 168 คน จาก 9 คณะ โดยผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างหลายขั้นตอนผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างอ่านและขีดเส้นใต้ข้อความที่อ่าน เพื่อวัดความสนใจของผู้อ่านขณะกำลังอ่านข่าวที่พาดหัวข่าวกำกวมไม่ถูกต้อง เกินจริง และถูกต้องซึ่งจัดทำขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ขนาดแท็บลอยด์ จากนั้นผู้วิจัยได้ให้กลุ่มตัวอย่างตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและความเห็นเกี่ยวกับข่าวที่อ่านเพื่อวัดการตีความและให้กลุ่มตัวอย่างกาเครื่องหมายใน Semantic Differential Scales เพื่อวัดความเชี่อถือ
จากการทดสอบสมมุติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 พบว่าหัวข่าวกำกวมและเกินจริงทำให้ผู้อ่านสนใจติดตามเนื้อข่าวที่ตามมามากกว่าหัวข่าวที่ไม่กำกวมและไม่เกินจริงในเนื้อข่าวเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนหัวข่าวถูกต้องและไม่ถูกต้องไม่ทำให้ผู้อ่านให้ความใจอ่านข่าวแตกต่างกันในทำนองเดียวกันพบว่าหัวข่าวกำกวม ไม่ถูกต้องและเกินจริงไม่ทำให้ผู้อ่านตีความและให้ความเชื่อถือเกี่ยวกับข่าวที่อ่านแตกต่างจากหัวข่าวไม่กำกวม ถูกต้อง และไม่เกินจริงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม พบว่าหัวข่าวกำกวม และเกินจริงทำให้ผู้อ่านที่อ่านข่าวไม่ละเอียดตีความข้อเท็จจริงของข่าวได้ถูกต้องน้อยกว่าหัวข่าวไม่กำกวมและไม่เกินจริง นอกจากนี้พบว่า หัวข่าวเกินจริงมีอิทธิพลต่อความเชื่อถือของผู้อ่านที่ใช้เวลาในการอ่านหนังสือพิมพ์ปกติครั้งละน้อยกว่า 15 นาที มากกว่ากลุ่มที่ใช้เวลาในการอ่านหนังสือพิมพ์มากกว่า 30 นาที