Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์

สกุณี  เกรียงชัยพร  (2548)  นิสิตปริญญาโท  สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา     มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ได้ทำการวิจัยเรื่ององค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์  เขตสวนหลวง  กรุงเทพมหานคร  กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 316คน  ผลการวิจัยพบว่า1.องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับนิสัยรักการอ่านของกลุ่มตัวอย่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01มี 8องค์ประกอบ  ได้แก่  นิสัยในการเรียน  แรงจูงใจในการอ่าน  การสนับสนุนด้านการอ่านจากผู้ปกครอง  สัมพันธภาพระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง   ลักษณะทางกายภาพของห้องสมุด  การสนับสนุนด้านการอ่านของครู  การรับสื่อและสิ่งพิมพ์  และการใช้เทคโนโลยี 2.องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางลบกับนิสัยรักการอ่านของกลุ่มตัวอย่าง  มี 13องค์ประกอบ  ได้แก่  เพศชาย  เพศหญิง  อายุ  ระดับชั้นที่ศึกษา :ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  อาชีพของผู้ปกครอง (รับราชการ  ธุรกิจส่วนตัว  และอื่นๆ)  ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง  ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง (ต่ำกว่ามัธยมศึกษา  มัธยมศึกษาปีที่ 6 -อนุปริญญาตรี  สูงกว่าปริญญาตรี)  และบุคลิกภาพ3.  องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของกลุ่มตัวอย่าง  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01มี 5องค์ประกอบโดยเรียงลำดับจากองค์ประกอบที่มีอิทธิพลมากที่สุดไปน้อยที่สุด  ได้แก่  การสนับสนุนด้านการอ่านจากครูในโรงเรียน  แรงจูงใจในการอ่าน  การใช้เทคโนโลยี  การรับสื่อและสิ่งพิมพ์  และสัมพันธภาพระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง  โดยองค์ประกอบทั้ง 5องค์ประกอบนี้ร่วมกันพยากรณ์นิสัยรักการอ่านของกลุ่มตัวอย่างได้คิดเป็นร้อยละ 26.3

สกุณี  เกรียงชัยพร.  (2548).  องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์  เขตสวนหลวง  กรุงเทพมหานคร.  สารนิพนธ์ กศ.ม. (จิตวิทยาการศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.  อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรรณรัตน์ พลอยเลื่อมแสง.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์  ตามองค์ประกอบด้านส่วนตัว  ครอบครัว  สภาพแวดล้อมในโรงเรียน  และสังคม  องค์ประกอบด้านส่วนตัว  ได้แก่  เพศ  อายุ  ระดับชั้นที่ศึกษา  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  นิสัยในการเรียน  บุคลิกภาพ  และแรงจูงใจในการอ่าน  องค์ประกอบด้านครอบครัว  ได้แก่  อาชีพของผู้ปกครอง  ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง  ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง  การสนับสนุนด้านการอ่านของผู้ปกครอง  จำนวนพี่น้อง  และสัมพันธภาพระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง  องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน  ได้แก่  ลักษณะทางภายภาพของห้องสมุด  และการสนับสนุนด้านการอ่านของครู  และองค์ประกอบด้านสังคม  ได้แก่  การรับสื่อและสิ่งพิมพ์  และการใช้เทคโนโลยี  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่  นักเรียนช่วงชั้นที่ 3  โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์  เขตสวนหลวง  กรุงเทพมหานคร  จำนวน 316คน  เป็นนักเรียนชาย 162คน  และนักเรียนหญิง 154คน  ปีการศึกษา 2548

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่  แบบสอบถามองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่าน  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน  และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

  1. องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มี 8 องค์ประกอบ ได้แก่ นิสัยในการเรียน (X17) แรงจูงใจในการอ่าน(X19) การสนับสนุนด้านการอ่านจากผู้ปกครอง (X20) สัมพันธภาพระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง (X21) ลักษณะทางกายภาพของห้องสมุด (X22) การสนับสนุนด้านการอ่านของครู (X23) การรับสื่อและสิ่งพิมพ์ (X24) และการใช้เทคโนโลยี (X25) และองค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มี 2 องค์ประกอบ ได้แก่ ระดับชั้นที่ศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 3(X6) และอาชีพของผู้ปกครอง : พนักงานบริษัทเอกชน (X10)
  2. องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางลบกับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มี 2 องค์ประกอบ ได้แก่ ระดับชั้นที่ศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 2 (X5) และจำนวนพี่น้อง (X8)
  3. องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ทางลบกับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร มี 13 องค์ประกอบ ได้แก่ เพศชาย (X1) เพศหญิง (X2) อายุ (X3) ระดับชั้นที่ศึกษา : ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (X4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (X7) อาชีพของผู้ปกครอง : รับราชการ (X9) อาชีพของผู้ปกครอง : ธุรกิจส่วนตัว (X11) อาชีพของผู้ปกครอง : อื่นๆ (X12) ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง (X13) ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง : สูงกว่าปริญญาตรี (X14) ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง : มัธยมศึกษาปีที่ 6-อนุปริญญาตรี (X15) ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง : ต่ำกว่ามัธยมศึกษา (X16) และบุคลิกภาพ (X18)
  4. องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อนิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มี 5 องค์ประกอบโดยเรียงลำดับจากองค์ประกอบที่มีอิทธิพลมากที่สุดไปน้อยที่สุด ได้แก่ การสนับสนุนด้านการอ่านจากครูในโรงเรียน (X23) แรงจูงใจในการอ่าน (X19) การใช้เทคโนโลยี (X25) การรับสื่อและสิ่งพิมพ์ (X24) และสัมพันธภาพระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง (X21) โดยองค์ประกอบทั้ง 5 องค์ประกอบนี้ร่วมกันพยากรณ์นิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ได้คิดเป็นร้อยละ 26.3
  5. สมการสามารถพยากรณ์นิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โดยนำค่าสัมประสิทธิ์ของตัวพยากรณ์มาเขียนเป็นสมการพยากรณ์ได้ดังนี้
    • 5.1 สมการสามารถพยากรณ์นิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ในรูปคะแนนดิบ ได้แก่ Ý = .896 + .208 X23 + .190 X18+ .158 X25+ .090 X24+ .062X21
    • 5.2 สมการสามารถพยากรณ์นิสัยรักการอ่านของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ในรูปคะแนนมาตรฐาน ได้แก่ Z = .896 + .208 X23 + .190 X18+ .158 X25+ .090 X24+ .062X21